ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน:ทิศทางเศรษฐกิจ และข้อเสนอแนะต่อนโยบายรัฐบาล ในปี 2566 – 2567 โดยรวบรวมข้อมูลในช่วงวันที่ 16 สิงหาคม – 30 กันยายน 2566 มีบริษัทจดทะเบียนร่วมตอบแบบสอบถาม 68 บริษัท จาก 21 หมวดธุรกิจ รวม 26.2% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ 31 ตุลาคม 2566 พบว่า
- CEO ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ปรับตัวดีขึ้นแต่ลดลงกว่าการคาดการณ์ไว้ในครั้งก่อน และคาดว่า GDP จะเติบโตที่ระดับ 2% ถึง 3% โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะเติบโตที่ระดับ 3% ถึง 4%
- CEO คาดว่าการท่องเที่ยว นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และเสถียรภาพการเมืองในประเทศ จะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 และต่อเนื่องในปี 2567 ขณะที่เสถียรภาพการเมืองในประเทศ กำลังซื้อในประเทศ และการส่งออกจะเป็นปัจจัยเสี่ยง
- CEO คาดการณ์ว่ารายได้ปี 2566 ดีขึ้น โดย 53% คาดว่ารายได้จะเติบโต 10% ขึ้นไป และเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 และคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 2566 และปี 2567 ดีขึ้นในทิศทางเดียวกันกับรายได้
- การลงทุนในปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2567 โดย 56% ของ CEO ที่ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มในปี 2566 และ 73% คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มในปี 2567
- ในปี 2566 CEO มีความวิตกกังวลสูงเกี่ยวกับปัจจัยการผลิตทั้ง “ต้นทุนราคาเชื้อเพลิง” และ “ต้นทุนวัตถุดิบ” และกำลังซื้อภายในประเทศ ขณะที่ “การเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ” และ “การให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน” จะเป็นปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลบวกต่อบริษัท
- CEO ชี้แนะรัฐบาลใหม่ ออกนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ไม่สร้างภาระการคลัง ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมออกนโยบาย เร่งสร้างเครื่องยนต์ตัวใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ พร้อมกระตุ้นทุกเครื่องยนต์ของเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันภาคเอกชน และส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม ส่งเสริมรายอุตสาหกรรม และการส่งเสริมแรงงาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 66)
Tags: CEO, GDP, ตลท., ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, เศรษฐกิจไทย