ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุว่า ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 93% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-18 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
CDC เปิดเผยว่า ผลการศึกษาดังกล่าวมาจากการติดตามอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-18 ปี จำนวน 464 คน ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเด็ก 19 แห่งทั่วสหรัฐในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย. ซึ่งขณะนั้นมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยพบว่าผู้ป่วยจำนวน 97% ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะที่จำนวน 72% มีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น
“ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ป่วยนี้จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในสหรัฐ”
รายงานระบุ
ผลการศึกษาดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานในอิสราเอลที่พบว่าวัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 92% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-15 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ขณะนี้ บริษัทไฟเซอร์กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)
Tags: Pfizer, วัคซีนต้านโควิด-19, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC), สหรัฐ, เด็ก, ไฟเซอร์