นายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย สายพัฒนาเศรษฐกิจการบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า CAAT ได้ติดตามค่าโดยสารพบว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 28–29 ธันวาคม 2567 และ วันที่ 1–2 มกราคม 2568 จะมีการเดินทางโดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น มีผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินก็สูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว CAAT จึงได้หารือร่วมกับบมจ.การบินไทย สมาคมสายการบินประเทศไทย (บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ นกแอร์ และไทยเวียตเจ็ท) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. กรมท่าอากาศยาน หรือ ทย. เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอกับการเดินทางในช่วงปีใหม่
ในเบื้องต้นสายการบินทั้งหมดขอไปหารือร่วมกันในการจัดสรรเครื่องบิน เส้นทางการบิน จำนวนที่นั่ง และช่วงเวลาทำการบิน ขณะที่ด้านการเตรียมพร้อมของท่าอากาศยาน CAAT ได้กำชับให้ ทอท.และทย. เตรียมเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอในการดูแลผู้โดยสาร และได้ขอให้ทย.เตรียมการขยายเวลาทำการของ 6 สนามบินในสังกัด ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และตรัง ในช่วงเช้าและค่ำของวันที่ 28–29 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1-2 มกราคม 2568 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการเดินทางหนาแน่น เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
นอกจากนี้ CAAT ขอแนะนำให้ผู้โดยสารวางแผนก่อนเดินทางในช่วงไฮซีซัน ดังนี้
- ก่อนการเดินทาง ควรหาข้อมูลที่สำคัญ เช่น การวางแผนจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนวันเดินทางโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว การจองล่วงหน้านี้อาจช่วยประหยัดค่าตั๋วได้ถึง 30-50% เมื่อเทียบกับการจองในช่วงใกล้วันเดินทาง และมีโอกาสได้ซื้อตั๋วเดินทางในราคาโปรโมชันจากสายการบินต่าง ๆ โดย CAAT ได้มีการกำหนดเพดานราคาค่าโดยสารเส้นทางภายในประเทศ ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบเพดานราคาได้ที่ https://www.caat.or.th/th/archives/36895
- ในวันเดินทาง ควรเผื่อเวลาสำหรับจุดตรวจความปลอดภัยและเคาน์เตอร์เช็กอิน เพราะอาจต้องใช้เวลานานกว่าช่วงปกติ เนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารมาก
- แนะนำให้ผู้โดยสารซื้อโดยสารตรงกับสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วของสายการบิน เนื่องจากจะเป็นราคาตั๋วที่มีการควบคุมราคาตามกฎหมาย และหากทำการซื้อราคาตั๋วจากเว็บไซต์อื่นแล้วพบว่ามีราคาแพง ให้พิจารณาลองตรวจสอบตรงกับสายการบินที่อาจได้รับราคาตั๋วที่ถูกกว่า
- ติดตามข้อมูลข่าวสารของสายการบินที่จองตั๋วโดยสารไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้ทราบเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบให้เกิดความล่าช้าของสายการบินดังกล่าว เช่น สภาพอากาศ หมอกควัน การจราจรทางอากาศหนาแน่น เหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ เหตุขัดข้องของสายการบินที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่สายการบินได้ออกมาเพื่อตอบรับกับเหตุสุดวิสัยหรือสถานการณ์ต่างๆ
- ผู้โดยสารสามารถศึกษาข้อกำหนดของ CAAT ด้านสิทธิผู้โดยสาร หากเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิก ซึ่งผู้โดยสารมีสิทธิได้รับการชดเชยในกรณีที่เที่ยวบินล่าช้าด้วยสาเหตุที่เกิดจากสายการบิน ดังนี้
- ล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง สายการบินต้องจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้ผู้โดยสาร เช่น คูปองอาหาร มูลค่า 200-300 บาท
- ล่าช้าเกิน 3 ชั่วโมง นอกจากอาหารและเครื่องดื่ม สายการบินต้องจัดหาที่พักให้ผู้โดยสาร โดยเฉพาะหากเป็น เที่ยวบินกลางคืนหรือต้องพักค้างคืน
- ล่าช้าเกิน 5 ชั่วโมง ผู้โดยสารมีสิทธิเลือกระหว่างการขอคืนค่าโดยสารเต็มจำนวน หรือเปลี่ยนเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางเดิมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ทุกการเดินทาง ผู้โดยสารควรศึกษาเงื่อนไขการเดินทางและสิทธิประโยชน์จากเว็บไซต์ของสายการบินที่จะเดินทาง เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และเก็บหลักฐานการเดินทาง เช่น บัตรโดยสาร ใบเสร็จค่าอาหารหรือที่พัก ไว้เพื่อใช้เรียกร้องสิทธิหากจำเป็น การเตรียมพร้อมและทราบถึงสิทธิของตนเองจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 67)
Tags: CAAT, ศรัณย เบ็ญจนิรัตน์, สายการบิน, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, เครื่องบิน