นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า จากแผนการเดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อป บริษัทเตรียมเดินหน้าขยายตัวในทุกมิติ ได้แก่ การเปิดตัวโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.25 หมื่นล้านบาท โดยมีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการแล้ว 100% ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมแผนสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่คู่ขนานกันไปด้วย ล่าสุด จึงได้เปิดโมเดล “Your Land to New Business” เปิดโอกาสร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรกับเจ้าของที่ดินในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ
“ทุกวันนี้ ประเทศไทยมีเจ้าของที่ดิน หรือ แลนด์ลอร์ด ที่มีที่ดินเปล่าในมือจำนวนมาก แต่หลายรายไม่อยากขาย ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีแผนการนำไปใช้ประโยชน์ จนสุดท้ายกลายเป็นที่ดินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โมเดล Your Land to New Business ที่เรากำลังทำตอนนี้ จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้เจ้าของที่ดิน ให้สามารถร่วมทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ไม่ต้องขายที่ดินเฉยๆ แต่ได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจไปด้วยกัน และสร้างผลตอบแทนมากกว่ามูลค่าสินทรัพย์” นายสุรินทร์ กล่าว
สำหรับโมเดล Your Land to New Business เปิดกว้างสำหรับเจ้าของที่ดินทั้งในนามบุคคลธรรมดาและในนามนิติบุคคล ที่มีที่ดินขนาดตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป โดยเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตผังสีที่สามารถพัฒนาบ้านจัดสรรได้ตามผังเมืองท้องถิ่น มีทางสาธารณะ ไม่เป็นที่ตาบอด และมีเอกสารประกอบครบถ้วน โดยตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพในพื้นที่ต่างๆ ครอบคลุมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคกลาง เช่น พระราม 2-บางขุนเทียน มหาชัย-บ้านแพ้ว พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และนครปฐม เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต หาดใหญ่ (สงขลา) สุราษฎร์ธานี และหัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) เมืองรองและเมืองน่าจับตามอง เช่น ลำปาง ลำพูน พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยภูมิ จันทบุรี นครศรีธรรมราช
การร่วมทุนภายใต้โมเดลดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทได้รับประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. ช่วยให้บริษัทมีโอกาสเข้าถึงที่ดินทำเลศักยภาพมากขึ้น 2. ช่วยให้บริษัทขยายอาณาจักรการเติบโตของบริทาเนียได้อย่างก้าวกระโดด และ 3. ช่วยให้มีคู่คิดร่วมดำเนินธุรกิจที่มีความเข้าใจในท้องถิ่นและทำเลเหล่านั้นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เจ้าของที่ดินที่มาร่วมทุน จะได้รับประโยชน์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1.ช่วยสร้างผลตอบแทนที่มากกว่ามูลค่าสินทรัพย์ 2.ได้ร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ และ 3.ได้คู่คิดและโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจบ้านจัดสรรและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ขณะที่ยอดขายโครงการใหม่ของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 2.54 พันล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7% ขณะเดียวกันบริษัทจะยังคงเดินหน้าธุรกิจในปี 66 อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/66 มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.8 พันล้านบาท ได้แก่ บริทาเนีย อยุธยา (Britania Ayutthaya) บริทาเนีย เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ (Britania Theparak-Srinakarin) และบริทาเนีย บางนา กม.39 (Britania Bangna KM.39)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 66)
Tags: BRI, บริทาเนีย, สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์, หุ้นไทย