ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยวันนี้ (5 เม.ย.) ว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่ำกว่ากำลังการผลิตสูงสุดเป็นไตรมาสที่ 11 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเงื่อนไขต่าง ๆ ในการยุติอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษนั้นยังคงไม่เข้าที่เข้าทาง
BOJ ระบุว่า ช่องว่างในการผลิตของญี่ปุ่น ซึ่งวัดจากความแตกต่างระหว่างผลผลิตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงกับผลผลิตตามกำลังการผลิตสูงสุด อยู่ที่ -0.43% ในไตรมาส 4/2565 กว้างขึ้นจากระดับ -0.08% ในไตรมาสเดือน ก.ค. – ก.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขระยะห่างที่ติดลบเกิดขึ้นเมื่อผลผลิตแท้จริงต่ำกว่าผลผลิตตามกำลังการผลิตสูงสุด และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง ซึ่งมักสร้างแรงกดดันที่ลดลงต่ออัตราเงินเฟ้อ
ข้อมูลช่องว่างระหว่างผลผลิตเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ BOJ ใช้เป็นตัวชี้วัดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ในประเทศยังคงแข็งแกร่งพอที่จะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดต่างคาดการณ์กันว่า BOJ จะยุติการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษ (Ultraloose Monetary Easing Policy) เมื่อนายคาซูโอะ อุเอดะ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ในเดือนเม.ย. นี้
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัวเพียง 0.1% ต่อปี ในช่วงเดือนต.ค. – ธ.ค. ทำให้ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะถดถอยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรายจ่ายฝ่ายทุนและการบริโภคยังคงอ่อนแอ
ในขณะที่การยกเลิกมาตรการคุมเข้มโรคโควิด-19 กำลังผลักดันภาคการบริโภคอยู่นั้น สัญญาณการชะลอตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ก็กำลังบดบังแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66)
Tags: BOJ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, อัตราดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจญี่ปุ่น