ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ได้ปรับลดมุมมองด้านเศรษฐกิจของ 8 จาก 9 ภูมิภาคในญี่ปุ่น โดยอ้างถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อการบริโภคในภาคบริการและปัญหาคอขวดด้านอุปทาน
BOJ เผยในรายงานเศรษฐกิจระดับภูมิภาครายไตรมาสของญี่ปุ่นสำหรับเดือนเม.ย. ว่า ภูมิภาคชูโกกุเป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการประเมิน
ส่วนอีก 8 ภูมิภาคที่ถูกปรับลดมุมมองเศรษฐกิจนั้น ได้แก่ ฮอกไกโด, โทโฮคุ, โฮคุริคุ, คันโต-โคชินเอ็ทสึ ซึ่งรวมโตเกียว, โตไก, คิงกิ ซึ่งครอบคลุมโอซากา, ชิโกกุ และคิวชู-โอกินาวา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อเช้านี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอในระดับหนึ่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเตือนถึงความไม่แน่นอนที่มีอยู่สูงมากว่า วิกฤติยูเครนจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากเพียงใด
นายคุโรดะกล่าวในการประชุมกับผู้จัดการสาขาของ BOJ ว่า ราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นายคุโรดะยังกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในสินค้าโภคภัณฑ์ไม่น่าจะผลักดันให้ BOJ เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน เนื่องจากภาวะดังกล่าวไม่ได้คงอยู่เป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี นายคุโรดะได้เตือนที่ประชุมรัฐสภาว่า สกุลเงินเยนได้อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 65)
Tags: BOJ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, เงินเฟ้อ