แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) คาดการณ์ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้เฟดยังคงมีโอกาสที่จะดำเนินการดังกล่าวก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบในตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นไปแล้วเกือบ 20% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น, สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ฟรานซิสโก บลานช์ นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ BofA กล่าวว่า “การที่เงินเฟ้อด้านการบริการยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอาจจะจำกัดความสามารถของธนาคารกลางต่าง ๆ ในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น ราคาน้ำมันกำลังสร้างปัญหาให้กับเฟดอีกครั้ง”
นายบลานช์คาดการณ์ว่า ราคาพลังงานจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องจนถึงฤดูการขับขี่ยานยนต์ในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐ ขณะที่ตลาดทั่วโลกจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบในปริมาณ 450,000 บาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ BofA คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 89 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 67)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, น้ำมัน, ราคาน้ำมันดิบ, อัตราดอกเบี้ย, เฟด