นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ (BIZ) เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ เพื่อจะเข้ามาเสริม Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นโครงการของภาครัฐมากกว่าของภาคเอกชน
ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมือ 2,188 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการส่งมอบเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งให้กับโรงพยาบาลภาครัฐที่เป็นคู่สัญญา 1,225 ล้านบาท และ โครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน Proton Project (KCHM) 963 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ส่วนการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 236 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้ภายหลังจากการส่งมอบเครื่องมือภายในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการติดตั้งไปแล้ว 95%
ด้านโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี Cancer Alliance Hospital (CAH) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 65% ในปีนี้จะมีการทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ผู้ถือบัตรทอง 30 บาท รักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว
“แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ระลอกใหม่ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าส่งมอบงานให้กับลูกค้า ปัจจุบันบริษัทสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19ได้ดีขึ้นกว่าระลอกแรกในปีก่อน และมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันรายได้และกำไรในปีนี้สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์”
โดยผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 551.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 263 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 81.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 435.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 15.28 ล้านบาท เป็นผลมาจากการส่งมอบเครื่องฉายรังสีให้กับโรงพยาบาลคู่สัญญาหลังจากเลื่อนมาจากปีก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 64)
Tags: BIZ, บิสซิเนสอะไลเม้นท์, ผลประกอบการ, สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์, หุ้นไทย, เครื่องฉายรังสี