BEAUTY เผย Q1/65 ขาดทุนลดลงจากลดต้นทุน-คุมค่าใช้จ่าย

นายพีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 112.71 ล้านบาท ลดลง 17.98 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 137.41 ล้านบาท และลดลง 3.91% จากไตรมาส 4/64 ที่มีรายได้รวม 117.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2.92 ล้านบาท ลดลง 80.70% จากจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 15.13 ล้านบาท และลดลง 65.40 จากไตรมาส 4/64 ที่มีขาดทุนสุทธิ 8.44 ล้านบาท

ผลขาดทุนที่ลดลงเป็นผลจากการปรับโครงสร้างบริหารจัดการ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ พร้อมลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย ประกอบกับไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision)

อย่างไรก็ตามรายได้ของบริษัท หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากระบบการค้าในประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกำลังซื้อที่ชะลอตัวจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนผลขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 69.55 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 4/64 ที่มีขาดทุนสะสม 166.32 ล้านบาท เป็นผลมาจากการกลับรายการตั้งสำรองกำไรสะสม สิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนและการลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นที่ซื้อคืนและจำหน่ายไม่ได้ จากโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัท

ส่วนแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/65 และครึ่งปีหลัง คาดว่า ผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่อเนื่อง ทั้งผ่านช่องทางผู้ค้าส่งเครื่องสำอางรายใหญ่ในแต่ละภูมิภาค (Local Distributor) โดยปัจจุบันแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วจำนวน 13 ราย และมีจุดวางจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ มากกว่า 1900 ร้านค้า (ณ ไตรมาส 2)

ขณะที่ร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET SHOP อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนารูปแบบร้านใหม่ให้มีความทันสมัย ตามแผนการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (Refresh Branding) โดยเริ่มที่สาขานำร่อง เซ็นทรัล อยุธยา และคาดว่าจะทยอยปรับปรุงอีก 19 สาขาให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ (Re Model) มีแผนเตรียมขายลิขสิทธิ์ Shop License ให้กับตัวแทนจำหน่ายที่มีความสนใจเปิดร้าน BEAUTY BUFFET ซึ่งจะมุ่งเน้นโลเคชั่นสาขาใกล้แหล่งชุมชน โดยตั้งเป้าขาย Shop License 10 สาขาทั่วประเทศในปีนี้ และบริษัทจะมีการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O เต็มรูปแบบและพรีเซนเตอร์ที่หลากหลาย เช่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลุยตลาดแมส “บิวตี้ บุฟเฟต์ ชาวเวอร์ เซรั่ม และ บอดี้ เอสเซนส์” น้ำตบผิวกายและเซรั่มอาบน้ำ โดยมี ‘ครูเต้ย’ อภิวัฒน์ บุญอเนก นักร้องหนุ่มแดนอีสาน 100 ล้านวิว ฉายา “คุณครูหล่อบอกต่อด้วย” เป็นพรีเซนเตอร์ กับแคมเปญการตลาด “เฮ็ดอิหยัง กะงามแท้” บุกทุกแพลตฟอร์ม

ส่วนช่องทางตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายใน 13 ประเทศประเทศ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม พม่า ลาว มาลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ญี่ปุ่น) โดยจะเน้นกระจายสินค้าเข้าสู่พื้นที่ต่างๆของแต่ละประเทศ และทำการตลาดให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างร่วมกับตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น

ขณะที่โมเดลการขายแบบ Product License ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของ BEAUTY ปัจจุบันมีสินค้าทั้งสกินแคร์และเมคอัพ ที่ตัวแทนนำไปผลิตและจำหน่ายรวม 27 รายการ และบริษัทมีแผนขยายตัวแทนจำหน่าย และเพิ่มจำนวนรายการสินค้าที่ให้ License อย่างต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 65)

Tags: , ,