BDMS ดีดขึ้น 2.97% โดดเด่นกลุ่ม รพ.หลังกำไร Q3/66 ดีเกินคาด Q4/66 เข้าไฮซีซั่น

BDMS ดีดขึ้น 2.97% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 26.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 437.60 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. จากราคาเปิด 25.75 บาท ราคาสูงสุด 26.25 บาท ราคาต่ำสุด 25.50 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 3.89 พันล้านบาท (+14.9% YoY และ +27.0% QoQ) สูงกว่าเราและนักวิเคราะห์ในตลาด (consensus) คาด 6% และ 7.7% ตามลำดับ โดยกำไรคิดเป็น 27.9% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเราที่ 1.39 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสะสมใน 9 เดือนแรกอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท (+9.8% YoY) คิดเป็น 74.8% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 แข็งแกร่งกว่าคาด หลัก ๆ เป็นเพราะ i) รายได้จากการดำเนินงานโรงพยาบาลแข็งแกร่งกว่าคาด 1.5% อยู่ที่ 2.54 หมื่นล้านบาท (+11.6% YoY และ +10.1% QoQ) และ ii) อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอย่างน่าประทับใจที่ 35.3% เทียบกับ 34.4% ในไตรมาส 3/65 และ 33.3% ในไตรมาส 2/66 ในช่วงที่แข็งแกร่งของปี

สำหรับสัดส่วน SG&A/รายได้อยู่ที่ 20.0% เทียบกับ 19.7% ในไตรมาส 3/65 และ 21.1% ในไตรมาส 2/66

ปัจจัยด้านลบพบว่า มีรายจ่ายการดำเนินงานรวมและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมของแพทย์สูงขึ้นตามการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานโรงพยาบาลและรายจ่ายที่เกี่ยวกับพนักงาน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรสนันสนุนสูงขึ้นเช่นกัน รวมทั้งรายจ่ายด้านการตลาด ค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายด้านการบริหารอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของผู้ป่วยชาวไทยต่อผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 74% ต่อ 26% เมื่อแบ่งตามสัดส่วนรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในจะอยู่ที่ 48% ต่อ 52%

เรายังมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 ตามความคาดหวังการเติบโตจากการกลับมาใช้บริการมากขึ้นของผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติแข็งแกร่งบนสมมติฐานที่สำคัญ ได้แก่ i) ปัจจัยฤดูกาล (ในฤดูฝนและฤดูหนาว) ii) การตรวจสุขภาพประจำปีของผู้ป่วยชาวไทย และ iii) การที่ทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติมีการดูแลรักษาประเภท intensity สูงขึ้น ดังนั้นเราจึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่ 1.39 หมื่นล้านบาท (+10.6% YoY)

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายด้วยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ปี 2567 ที่ 37.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0% และ TG ที่ 3.0%) เลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงพยาบาล จากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำด้วยสัดส่วน net debt-to-equity ratio ต่ำและ interest coverage ratio สูง)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: , ,