หุ้น BBL ราคาขยับขึ้น 1.66% มาอยู่ที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,505.30 ล้านบาท ขณะที่หุ้น BAY ทรงตัวที่ 32.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 24.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.17 น.
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากการรายงานข่าวของเวิร์ดบิสสิเนสบรอดคาสท์ ระบุว่า ธนาคารซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่าจะมีการประมูลซื้อธุรกิจรายย่อยในตลาดเอเชียในวันศุกร์ที่ 22 ต.ค.นี้ โดยธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ธนาคารซิตี้กรุ๊ปต้องการขายเพื่อออกจากตลาด โดยตามข่าวมีการระบุถึง ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ ธนาคารกรุงศรี (BAY) ว่าสนใจเข้าร่วมประมูลซื้อ แต่ทั้ง 2 ธนาคารยังปฎิเสธที่จะให้ความเห็น โดยในส่วนของธนาคารกรุงเทพ ข่าวมีการระบุว่าจะเสนอวงเงินมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายวิจัย คาดว่าการประมูลซื้อกิจการซิตี้กรุ๊ปในไทยมีผู้สนใจเข้าประมูลหลายราย นอกจากทั้ง 2 ธนาคารที่ระบุในข่าว และยังไม่แน่ชัดว่าธนาคารใดจะเป็นผู้ชนะประมูลด้วยมูลค่าเท่าใด
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะปัจจุบันที่การขยายสินเชื่อทำได้ยาก บวกกับพอร์ตสินเชื่อของซิตี้แบงก์ในไทยค่อนข้างมีคุณภาพดี สัดส่วน NPL ณ เดือน ส.ค.64 อยู่ที่ราว 1.26% เท่านั้น ทำให้จะเป็นบวกต่อธนาคารใดที่สามารถประมูลได้ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไป (มองว่าระดับไม่เกิน 2 เท่า PBV เป็นราคาที่เหมาะสมหากเทียบกับระดับ ROE ของซิตี้แบงก์ทำได้ในอดีตที่ราว 14-16% ไม่นับรวมปี 63 ที่มีสำรองพิเศษจากสถานการณ์การระบาด)
ทั้งนี้ หาก BBL ประมูลได้ด้วยราคา 6.8 หมื่นล้านบาท จะคิดเป็น PBV 1.98 เท่า ถือว่าเหมาะสม และยังเป็นการขยายฐานสินเชื่อไปสู่ลูกค้ารายย่อย จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 10% และส่วนใหญ่ยังเป็นสินเชื่อบ้าน อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประมูลแล้วเสร็จ อาจมีการอัพเดตประเด็นดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 64)
Tags: BAY, BBL, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, หุ้นแบงก์, หุ้นไทย