นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บีบีจีไอ (BBGI) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท BBGI ว่า ในไตรมาสแรกของปี 65 มีกำไรอยู่ที่ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 128% เมื่อเทียบกับกำไรไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาไบโอดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น และต้นทุนขายของธุรกิจเอทานอลที่ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน
อนึ่ง BBGI แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 130.33 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 202.59 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ B nature+ (บี เนเจอร์ พลัส) เพิ่มเติม ล่าสุดในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “Calcium-LT plus UC-II” ผลิตภัณฑ์ดูแลกระดูกและไขข้อ เข้ามาช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงของบีบีจีไอให้เติบโตยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้น ผลิตภัณฑ์การดูแลกระดูกและไขข้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยตลาดมีมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท ผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากนั้น บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (ในนามของ BBGI) บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) และ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการพัฒนาและผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ เพื่อทดลองผลิตครั้งแรกของประเทศไทย โดยตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพในประเทศไทยนั้นมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก จากปัจจุบันที่มีปริมาณการใช้งานอยู่ประมาณ 3 ล้านลิตร ของปริมาณการใช้น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งหมด 33 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท สอดคล้องกับมาตรการส่งเสริมของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่ต้องการกระตุ้นปริมาณความต้องการใช้น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพในประเทศไทยให้มากขึ้น และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 65)
Tags: BBGI, กิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์, บีบีจีไอ, หุ้นไทย, เอทานอล, ไบโอดีเซล