นางสาวดมิศา พิศิษฐวานิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารศึกษาการเพิ่มฟังก์ชั่นการออมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจของคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะ Cryptocurrency ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ดังนั้น ธนาคารจึงได้ศึกษาโอกาสและแนวทางการออม Cryptocurrency แต่ยังต้องมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การให้บริการเป็นไปตามกฎระเบียบ
“บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยามีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ทำให้การพัฒนาบริการของ Kept ที่เกี่ยวข้องกับการออม Cryptocurrency ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่ธนาคารมองดูถึงโอกาส เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคใหม่”
นางสาวดมิศา กล่าว
ธนาคารได้ตั้งเป้าตั้งเป้าจำนวนลูกค้าผู้ใช้งาน Kept by krungsri แตะ 1 ล้านคนภายในปี 67 หรือมีจำนวนเงินฝากรวมราว 3 ล้านล้านบาท โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Kept ถือว่าเติบโตเกินกว่าที่ธนาคารคาดไว้ จำนวนผู้ใช้งานมากถึง 220,000 คน และจำนวนบัญชีกว่า 500,000 บัญชี คิดเป็นเงินฝากรวมกว่า 6 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่ง 80% ของผู้ใช้งานเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น Gen Y และ Gen Z
ด้วยรูปแบบการออมเงินบน Kept ตามแนวคิด 1 กระเป๋า หลายกระปุก ที่ให้ลูกค้าตั้งเป้าหมายการออมได้ ใช้งานง่าย มีลูกเล่น และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การเก็บออมเงินหลากหลาย ด้วยกระปุกหลายประเภทที่มีให้ภายในแอป ทำให้จำนวนบัญชีที่เปิดในปีที่ผ่านมามีเข้ามามาก และยังมีจำนวนการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่เพิ่งเริ่มเปิดตัวแพลตฟอร์มให้ใช้งาน สะท้อนว่าผู้ใช้มีความคุ้นเคยผูกพันกับ Kept มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินออมที่ตั้งไว้
ด้านพฤติกรรมลูกค้า Kept พบว่า กว่า 70% ของเงินที่ Gen Z เก็บได้มาจากกระปุก Fun ซึ่งเป็นการแอบเก็บแบบอัตโนมัติ ขณะที่กลุ่ม Gen Y มักจะเก็บเงินเข้ากระปุก Grow และมีผลงอกเงยจากดอกเบี้ยมาก จากข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้พบว่า 30% ของลูกค้าลูกค้าที่เก็บเงินเข้า Grow นั้น ไม่เคยถอนเงินออกมาใช้เลย สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของผู้ที่ใช้งาน Kept ในการเก็บออมเงิน
ล่าสุด ธนาคารได้เปิดตัวบัญชีใหม่ภายใต้ชื่อ Together savings หรือกระปุก Together ที่อยู่ใน Kept ซึ่งเป็นกระปุกที่ดีไซน์ฟีเจอร์ให้ตอบโจทย์การเก็บออมเงินแบบมีเป้าหมายจะเก็บคนเดียว หรือจะเป็นกลุ่ม กับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ก็สามารถทำได้ โดยทุกคนในกลุ่มสามารถดูยอดเงินในกระปุก มองเห็นการเข้าออกของเงินร่วมกัน และยังสามารถใส่ Note เมื่อทำรายการเพื่อช่วยให้รู้ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง หรือได้เงินเพิ่มเข้ามาจากอะไร และจะมีการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกเมื่อมีเงินออกทุกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)
Tags: BAY, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, ดมิศา พิศิษฐวานิช, ธนาคาร, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, หุ้นไทย, เงินดิจิทัล