BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 34.90-35.50 กังวลเศรษฐกิจจีน

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.06 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.62-35.19 บาท/ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน

เงินดอลลาร์เดินหน้าแข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้ข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2% เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือน มิ.ย. ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.7% ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ดัชนีราคาผู้ผลิต รวมถึงผลประมูลพันธบัตรท้ายสัปดาห์ ดึงบอนด์ยิลด์ขึ้น โดยเฉพาะตราสารระยะยาว ขณะที่สัญญาล่วงหน้า สะท้อนว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 5.25-5.50% และจะมีข้อมูล CPI อีกหนึ่งชุดก่อนการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 116 ล้านบาท และขายพันธบัตร 17,835 ล้านบาท โดยมีตราสารหนี้ครบอายุ 7,161 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ รวมถึงรายงานการประชุมนโยบายเฟด เมื่อวันที่ 25-26 ก.ค. โดยในกรณีที่ข้อมูลยังแข็งแกร่ง และเฟดยึดเหนี่ยวกับมุมมองที่ว่า ภาวะเงินเฟ้อยังไม่คลายตัวลงในระดับที่เฟดพอใจ นักลงทุนอาจปรับเลื่อนการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะเวลาสำหรับการลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไป

นอกจากนี้ หากผู้ร่วมตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น ท่ามกลางภาวะตึงเครียดในภาคอสังหาริมทรัพย์ เรามองว่าเงินดอลลาร์จะแกว่งตัวในกรอบที่แข็งค่าต่อไปในระยะสั้น

ส่วนประเด็นในประเทศ มองว่า ผู้ว่าการ ธปท.ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว แต่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้ และปี 67 ลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ เนื่องจากภาคส่งออกชะลอตัว

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 ก.ย. ผู้ว่าการฯ ธปท. ระบุว่า มีโอกาสทั้งการคงดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ไม่ได้วิตกเกี่ยวกับความล่าช้าในการตั้งรัฐบาลมากนัก อย่างไรก็ดี ธปท. มองว่านโยบายของรัฐบาลใหม่ไม่ควรเน้นประชานิยมสุดโต่ง แต่ควรให้ความสำคัญกับเสถียรภาพในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)

Tags: , , ,