นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 65 จะเติบโตกว่าปีก่อน ที่ทำได้ 1.34 แสนล้านบาท เป็นไปตามราคาถ่านหินและก๊าชธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากผลกระทบสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เป็นแรงผลักดันความต้องการพลังงานที่มาใช้ทดแทน
ที่ผ่านมาบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยง (เฮดจิ้ง) ราคาถ่านหินไปแล้ว 2% แต่ปัจจุบันก็ได้ปล่อยให้เป็นไปตามราคาตลาด ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติจะมีการเฮดจิ้งเป็นระยะๆ เป็นไปตามรูปแบบการขายที่สหรัฐฯ ซึ่งมักจะมีการซื้อขายกันในตลาดล่วงหน้ามากกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะบริหารจัดการการทำเฮดจิ้งในสัดส่วนที่เหมาะสมประมาณ 50% โดยพิจารณาตามภาวะตลาดในแต่ละช่วง
ปัจจุบัน ราคาก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 4.7 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ส่วนราคาถ่านหินในตลาดล่วงหน้า ล่าสุดปรับตัวขึ้นสูงเกิน 400 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยที่ผ่านมา BANPU ก็มีการขายล่วงหน้าไปบ้าง แต่ปัจจุบันราคาขาย Spot และล่วงหน้าก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน จึงปล่อยให้ลอยตัว เพื่อทำให้ได้ราคาขายสูงขึ้น
สำหรับปัญหาของสงครามรัสเซียและยูเครน ในแง่ของการทำเฮดจิ้งของ BANPU ในทุกธุรกิจ ได้มีการดำเนินการไปตั้งแต่แรกแล้ว โดยเฉพาะการนำเข้าถ่านหินในยุโรป ทำให้ไม่มีผลกระทบดังกล่าว แต่จะมีผลกระทบในแง่ของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่บริษัทก็สามารถลดต้นทุนจากการลดการใช้น้ำมัน และพยายามขายราคาถ่านหินให้ได้ในราคาตลาดเพื่อนำมาชดเชยกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองส่งออกถ่านหินเข้าไปขายในจีนบ้างแล้ว แต่ด้วยนโยบายจีนที่จะคุมราคาถ่านหินให้อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ขณะนี้ราคาขายค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับที่อื่น อีกทั้งยังมองการขยายการลงทุนในเหมืองแร่นิกเกิลในออสเตรเลียและอินโดนีเซียเพื่อสนับสนุนธุรกิจแบตเตอรี่ของบริษัทฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 65)
Tags: BANPU, บ้านปู, สมฤดี ชัยมงคล, หุ้นไทย