นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.สหการประมูล (AUCT) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯมีนโยบายในการขยายตลาดการประมูลซื้อรถยนต์มือสองไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ (End User) เห็นได้จากการเปิดประมูลทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งจัดแคมเปญร่วมกับองค์กรต่าง ๆเพื่อขยายฐานลูกค้าดังกล่าวให้มากขึ้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ”สหกรณ์การประมูล” หรือ Cooperative Hub Auction Project (C.H.A.P.) มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มเกษตรกร
เพื่อประมูลขายรถยนต์ประเภทเครื่องจักรกลการเกษตรมือสอง ซึ่งได้ร่วมมือกับนายทองสู่ ลพพันทอง ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.)ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ร่วมโครงการดังกล่าว โดยจะเริ่มนำร่องที่สาขาจังหวัดขอนแก่นเป็นที่แรก
“บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่ม End User ให้เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ การเข้าไปบริการลูกค้าที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) จังหวัดขอนแก่น เป็นโมเดลที่มีความเป็นไปได้สูงเนื่องจากมีสมาชิกที่เป็นเกษตรกรกว่า 6 หมื่นราย หลังจากนั้นมีแผนที่จะขยายโครงการนี้ไปร่วมกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) จังหวัดอุดรธานี โดยจะใช้โมเดลเดียวกันนี้ขยายฐานลูกค้าผ่านโครงการสหกรณ์การประมูล(C.H.A.P.) ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ” นายวรัญญากล่า;
โครงการสหกรณ์การประมูลที่ได้ร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) สาขาขอนแก่นเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เป็นสมาชิกให้มีโอกาสเข้าร่วมประมูลซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรในราคาที่สมเหตุสมผลเนื่องจากสมาชิกจะมีโอกาสได้เปรียบเทียบข้อมูลราคาขายจากแหล่งอื่น ๆกับราคาการประมูลซื้อกับโครงการ “สหกรณ์การประมูล” หลังจากนั้นจะขยายบริการไปสู่การประมูลซื้อทั้งรถยนต์ รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถอื่นๆ
นายวรัญญู เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรส่วนใหญ่ได้มีการซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร รถยนต์และรจักรยานยนต์เฉพาะในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวกันอยู่แล้ว แต่การซื้อผ่านโครงการ “สหกรณ์การประมูล” สามารถทำได้ตลอดทั้งปี เนื่องจาก ธ.ก.ส.ได้สนับสนุนสินเชื่อสำหรับการซื้อผ่านโครงการดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มสมาชิกในการเลือกซื้อรถยนต์มาใช้ทำการเกษตรและยานพาหนะอื่น ๆ ได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย เช่น เครื่องจักรกลทางการเกษตรมือสองจากคูโบต้า ซึ่งในแต่ละเดือนมีให้เลือกซื้อไม่ต่ำกว่า 200 คันต่อเดือน รวมทั้งยี่ห้ออื่น ๆ ในกลุ่มเกษตรกรรม
อย่างไรก็ตาม หากมีการขยายโครงการดังกล่าวให้บริการสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นและทำให้ยอดขายรถมือสองในกลุ่มเกษตรกรรมจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 66)
Tags: AUCT, ธ.ก.ส., ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, วรัญญู ศิลา, สหกรณ์การเกษตร, สหการประมูล