นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub) ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Hybrid GameFi ในรูปแบบ Play & Earn ชื่อว่า ASTRONIZE ซึ่งเป็นการนำความเชี่ยวชาญจากทั้ง 2 บริษัทมาร่วมกันพัฒนาและยกระดับวงการเกมส์ที่มีความยั่งยืน และเข้ามาแก้ไขปัญหา Pain point ที่เกิดขึ้นจากเกมส์ในรูปแบบ Coventional และ Gamefi
แพลตฟอร์ม ASTRONIZE ถือเป็นหนึ่งใน New S Curve ใหม่ให้กับบริษัทในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และยกระดับให้บริษัทก้าวเข้าสู่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (Platform Provider) จากปัจจุบันที่เป็นผู้ให้บริการเกมส์ (Publisher) อีกทั้งยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้นทั้งจากกลุ่มที่ชื่นชอบการเล่นเกมส์ และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการเล่นเกมส์และได้รับผลตอบแทนไปในตัว โดยผนวกความเชี่ยวชาญด้านการเลือกคอนเทนท์และการตลาดเกมส์ของบริษัท เข้ากับการสร้างแพลตฟอร์มที่อยู่บนบล็อกเชนและบริการด้านการลงทุนที่ Bitkub มีความเชี่ยวชาญเข้าด้วยกัน ซึ่งคาดว่าแพลตฟอร์ม ASTRONIZE จะเริ่มเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3/65
ทั้งนี้ ASTRONIZE จะมีการสนับสนุนให้เกมต่างๆที่อยู่ในรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิมที่เป็นเกมส์แบบ Conventional สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโมเดลธุรกิจไปสู่ Hybrid GameFi ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ทั้ง 2 กลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืนกว่า คือ กลุ่มผู้เล่นเกมส์เพื่อความสนุกสนาน และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเล่นเกม
เนื่องจากในปัจจุบันแม้ GameFi กำลังถูกมองว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมเกมในอนาคต แต่ผู้พัฒนาเกมส์หรือสตูดิโอเกมส์ส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมและความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน ดังนั้น ASTRONIZE จะเป็นตัวเชื่อมโยงให้สตูดิโอเกมส์สามารถก้าวเข้าสู่โมเดล Hybrid GameFi ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเกมให้สูงขึ้น รวมทั้งจะได้มุ่งไปที่งานพัฒนาตัวเกมส์ที่เป็นจุดแข็งของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
“การพัฒนาแพลตฟอร์ม ASTRONIZE ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งเรายังต้องดูผลตอบรับหลังจากเริ่มให้บริการไปในระยะหนึ่งก่อน แต่มองว่าโอกาสในธุรกิจใหม่นี้ยังมีอีกมาก และเราต้องการสร้างความยั่งยืนในการทำแพลตฟอร์มนี้ที่ตอบโจทยืทั้งกลุ่มผู้เล่นเกมส์ที่ต้องการเล่นเกมส์ที่มีความสนุก มีกราฟฟิคที่ดี และมีคอนเทนท์และไอเท็มใหม่ๆมาเติม รวมถึงกลุ่มผู้เล่นเกมส์ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนไปด้วย
รูปแบบของ ASTRONIZE จะมีความแตกต่างจาก Gamefi อื่นๆ โดยเฉพาะความต่อเนื่องของเกมส์และความแปลกใหม่ของเกมส์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รวมถึงการพัฒนาไอเท็มในเกมส์ที่จะสามารถกลายเป็น NFT ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในบล็อกเชนได้ หากแพลตฟอร์มนี้ประสบความสำเร็จก็อาจจะมีความคิดที่เป็นเรื่องใหญ่ในการต่อยอด ASTRONIZE ต่อไป”นายปราโมทย์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มรายได้ในปี 65 บริษัทคาดว่ายังคงเห็นการเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยที่มีปัจจัยหนุนรายได้ในปีนี้มาจากการรับรู้รายได้จากการเริ่มธุรกิจเกมส์ในเวียดนามที่บริษัทเริ่มนำเกมส์เข้าไปให้บริการในปลายปีก่อน ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้จากการให้บริการเกมส์ในเวียดนามเข้ามาเต็มปี และยังเดินหน้าในการเปิดตัวเกมส์ใหม่ที่อยู่ใน Pipeline ออกมาต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้ในปีนี้ให้เติบโตขึ้น
การเปิดให้บริการเกมส์ใหม่ในปี 65 จะมีจำนวน 10 เกมส์ แบ่งเป็น เกมส์ PC จำนวน 3 เกมส์ และเกมส์ Mobile จำนวน 7 เกมส์ ซึ่งในเดือน ม.ค. 65 ได้เปิดเกมส์ Mobile ไปแล้ว 1 เกมส์ คือ Legend of condor heroes หรือตำนานมังกรหยก และในปลายเดือนมี.ค.นี้ จะเปิดเกมส์ Mobile อีก 1 เกมส์ คือ Huang Yi Mobile ซึ่งทั้ง2 เกมส์จะเป็นเกมส์ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย และเกมส์ที่เหลือจะเป็นเกมส์ที่เตรียมนำไปเปิดในประเทศอาเซียน
ขณะที่การเติบโตของตลาดเกมส์ Mobile ที่เติบโตขึ้นมากอย่างรวดเร็ว บริษัทยังคงเดินหน้าการนำเกมส์ Mobile มาเปิดให้บริการต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้สัดส่วนเกมส์ Mobile จะเพิ่มเป็น 50% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนเกือบ 30% เพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่ผู้เล่นเกมส์ส่วนใหญ่หันมาเล่นเกมส์ผ่านทางสมาร์ทโฟนมากขึ้น
นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ กรรมการผู้จัดการ AS กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าในการเจรจากับผู้พัฒนาเกมส์และสตูดิโอเกมส์ เพื่อเตรียมนำเกมส์ใหม่ๆมารองรับการเปิดให้บริการและทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาเกมส์ใหม่ที่จะนำมาเปิดให้บริการในปีต่อไปแล้ว 1-2 เกมส์ และยังคงมีการเจรจาเพื่อเซ็นสัญญาเกมส์ใหม่ๆต่อเนื่อง
สำหรับความร่วมมือกับ Bitkub ในการพัฒนาแลพตฟอร์ม ASTRONIZE จะเป็น Paradigm shift ที่สำคัญของบริษัทที่พลิกบทบาทจากการเป็น Publisher สู่การเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม และเป็นก้าวเริ่มต้นของการเปิดตัวสู่ตลาดโลก รวมทั้งแพลตฟอร์ม ASTRONIZE จะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาด GameFi และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เล่นเกมส์ นักลงทุน เพราะเกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำทั้ง 2 บริษัท ซึ่งบริษัทไม่ได้ต้องการทำเกมส์ในรูปแบบ Play-to-Earn ที่มุ่งเน้นแค่เรื่องผลตอบแทนด้านเดียว ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ไม่ยั่งยืน จากการที่เห็นรูปแบบ GameFi แบบ Play-to-Earn มีการปิดตัวไปค่อนข้างมาก หลังมูลค่าเหรียญปรับตัวลดลง เพราะผู้ที่เข้ามาเล่นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุน เมื่อราคาเหรียญปรับตัวลดลงทำให้ความนิยมของเกมส์ในรูปแบบดังกล่าวลดลงตามไป จนต้องปิดให้บริการ ซึ่งสะท้อนภาพที่ไม่ยั่งยืน
โดยที่รูปแบบที่บริษัทต้องการพัฒนาเป็นการสร้างโมเดลในรูปแบบ Play & Earn ที่มุ่งเน้นความสนุกและคุณภาพเกมส์มาเป็นอันดับแรก ส่วนผลตอบแทนที่ได้รับจะเป็นผลพลอยได้ที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อทำให้เกมส์มีฟีเจอร์ที่มากขึ้นกว่าการเล่นเกมส์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาต่อยอดในการพัฒนา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 65)
Tags: AS, Bitkub, บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, ปราโมทย์ สุดจิตพร, หุ้นไทย, เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น