นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภายหลังจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 11,623 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 7,003 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 65.97%
ในส่วนของเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 141 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 137 เที่ยวบิน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.92% ทั้งนี้คาดว่าจากนี้ไปจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. ที่เพิ่มมากขึ้นให้ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) จึงได้เปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบิน C ซึ่งเป็นอาคารที่รองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา จากเดิมที่เปิดให้บริการเฉพาะที่อาคารเทียบเครื่องบิน E, F และ G
นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้เปิดให้บริการจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ โซน 1 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร หลังจากปิดปรับปรุงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจุดตรวจหนังสือเดินทางที่มีการปรับปรุงใหม่นี้ จะมีการปรับเปลี่ยนโฉมเคาน์เตอร์ให้ดูสวยงาม ทันสมัย มีการปรับผังพื้นที่การติดตั้งเคาน์เตอร์ใหม่ ทำให้มีจำนวนเคาน์เตอร์ให้บริการเพิ่มมากขึ้นเป็น 56 เคาน์เตอร์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,450 คนต่อชั่วโมง เป็น 4,080 คน ต่อชั่วโมง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. 65)
Tags: AOT, กิตติพงศ์ กิตติขจร, ท่าอากาศยานไทย, ผู้โดยสาร, สนามบินสุวรรณภูมิ