นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 64 เติบโตไม่ต่ำกว่า 16% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานโครงการโครงสร้างพื้นที่ฐานต่างๆของภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานระบบโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ มูลค่างานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1 แสนล้านบาทที่บริษัทได้เตรียมเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงานภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายปีนี้จะได้งานเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมืออยู่ราว 1,800 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้เข้ามาในมือไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท แม้ว่าจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบให้โครงการต่างๆ มีความล่าช้าไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่าจะสามารถเร่งดำเนินโครงการให้สามารถรับรู้รายได้ และส่งมอบโครงการได้ตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้ ด้วยการออกแบบของบริษัทเอง และธุรกิจอื่นๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ประจำ โดยบริษัทคาดหวังจะมีสัดส่วนรายได้ประจำเพิ่มอีก 2-3 เท่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ราว 5-10%
“เราค่อนข้างพอใจราคาหุ้นในวันนี้ ที่ถือว่าปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และอาจจะมีผลกระทบกับการก่อสร้างบ้างจากการใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามเรายืนยันว่าจะสามารถดูแลการดำเนินโครงการต่างๆ และเร่งให้สามารถรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เราจึงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 16%”นายมารุต กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 64)
Tags: AMR, มารุต ศิริโก, สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า, หุ้นไทย, เอเอ็มอาร์ เอเซีย