นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า ในปี 2565 กลุ่ม AMATA ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินไว้ที่ 1,000 ไร่ โดยมองว่าจากการที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายเพื่อให้เกิดการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างชาติ ด้วยระบบ เทส แอนด์ โก (Test & GO) นับเป็นสัญญาณบวกต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในปี 65
โดยล่าสุดนักลงทุนเริ่มทยอยเข้ามาติดต่อ เจรจา เพื่อขอศึกษาและดูพื้นที่จริงหลังจากปีที่ผ่านมาไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โลจิสติกส์ อิเล็กทรอนิกส์ เคมิคอล และผู้ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทย
“นิคมอุตสาหกรรมอมตะฯ มีความพร้อมรองรับการเข้ามาลงทุนและขยายการลงทุน ด้วยพื้นที่ที่มีกว่า 14,000 ไร่ แบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่พาณิชยกรรม พื้นที่ดินที่ยังรอการพัฒนา โดยเป็นพื้นที่ของนิคมฯ อมตะซิตี้ชลบุรี 9,800 ไร่ และที่เหลือเป็นของนิคมฯ อมตะซิตี้ระยอง 2,400 ไร่ ซึ่งเพียงพอต่อความสนใจของนักลงทุนที่จะเข้ามา”
นายวิบูลย์ กล่าว
นอกจากนี้ AMATA ยังมีนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดใหม่ใน สปป.ลาว หรือ อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ (AMATA SMART & ECO CITY) ด้วยพื้นที่ 410 เฮกเตอร์ หรือจำนวน 2,562.5 ไร่ ซึ่งบริษัทพร้อมเข้าไปพัฒนา โดยอาศัยฐานจากนักลงทุนของ AMATA ที่มีการลงทุนอยู่แล้วในไทยและเวียดนามกว่า 1,400 โรงงาน รวมถึงนักลงทุนที่เคยประสงค์ลงทุนในเมียนมา แต่ติดปัญหาทางการเมือง จะหันมาใช้ลาวเป็นฐานในการขยายการผลิตเพื่อใช้ระบบโลจิสติกส์รถไฟฟ้าความเร็วสูงลาว-จีน จึงมั่นใจว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพอีกแห่งหนึ่งของกลุ่มในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
“การเปิดนิคมอมตะซิตี้ที่ประเทศลาว ถือเป็นโอกาสที่ดีเลยสำหรับแผนการลงทุนของอมตะ ด้วยศักยภาพของพื้นที่ถือเป็น Asset และสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับดี โดยดูจากเป้าหมายการเติบโตของประเทศ (GDP) ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4% จะทำให้ความเคลื่อนไหวการลงทุนมีมากขึ้น”
นายวิบูลย์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 65)
Tags: AMATA, วิบูลย์ กรมดิษฐ์, หุ้นไทย, อมตะ คอร์ปอเรชัน