นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และกำกับดูแลการปฏิบัติงาน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ลงทุน 5G นำตลาดเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้าโดยวันนี้มีลูกค้า 1.5 ล้านรายแล้ว และเชื่อว่าในปีหน้าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีเครื่องโทรศัพท์มือถือ 5G ราคาต่ำลงออกมารองรับมากขึ้น และคาดว่ากระแส Metaverse จะช่วยหนุนความต้องการใช้ 5G เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะมีแพ็คเกจ 5G ที่หลากหลายมากขึ้น
อีกทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้นและได้มีการเปิดประเทศแล้ว คาดว่าจะทำให้ภาคธุรกิจฟื้นตัวได้ดี ซึ่งธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ จะนี้ยังเติบโตได้ดี เพราะปัจจุบันบรอดแบนด์ได้กระจายการใช้งานเพียง 50% ของประชากรทั้งหมด จึงยังมีช่องว่างที่จะเติบโตได้อีกมาก
ส่วนงบลงทุนในปีหน้าคาดว่าจะไม่สูงมากนัก โดยน่าจะไม่เกิน 25,000-30,000 ล้านบาทที่ใช้ลงทุนในปี 64 โดยขณะนี้กำลังพิจารณาการประมูลคลื่น 3500 MHz ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมเปิดประมูลในปีหน้า ซึ่งบริษัทให้ความสนใจแต่ก็ต้องรอดูราคาและเงื่อนไขการประมูลเป็นสำคัญด้วย
“สถานะการเงินของเอไอเอส ถือว่าแข็งแรงค่อนข้างมาก Debt to Equity 2 เท่า ไม่ว่าจะลงทุนใหม่ เพิ่มคลื่นความถี่ ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ ไม่น่าจะกระทบต่อการชำระหนี้” นางสาวนัฐิยา กล่าว
สำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าเติบโตเล็กน้อยจากปีก่อนซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในงวด 9 เดือนในปี 64 รายได้หลักจากการให้บริการทรงตัวที่ 9.76 หมื่นล้านบาท ขณะที่การควบคุมค่าใช้จ่าย ทำให้บริษัทสามารถประคองตัวมีกำไรได้ที่ 20,059 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน ก.ย.64 มีจำนวนผู้ใช้บริการ 43.7 ล้านราย
นอกจากนี้ เอไอเอสได้จับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ร่วมจัดตั้งบริษัท AISCB ที่ให้บริการ Digital Lending โดยจะเริ่มให้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือในต้นปี 65 ลูกค้าเป้าหมายเป็นลูกค้าเอไอเอสที่ต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ หลังจากนี้คาดจะให้บริการสินเชื่อบุคคล และนาโนไฟแนนซ์ถัดไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: ADVANC, นัฐิยา พัวพงศกร, เอไอเอส, แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, โทรคมนาคม