นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แสดงความเห็นต่อการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสาน มูลค่า 1.28 แสนล้าน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อสังเกตดังนี้
1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล
เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้เงินงบประมาณ รัฐต้องจูงใจและส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันประมูลให้มากที่สุด ดังนั้นในปี 2558 ครม. จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน กำหนดให้การประมูลรถไฟทางคู่ต้องกระจายงานออกเป็นสัญญาที่วงเงินต่อสัญญาไม่สูงเกินไปและแยกงานระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา เพื่อป้องกันการฮั้วประมูลและเปิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้ แต่มติ ครม. นี้กลับถูกยกเลิกไปตามข้อเสนอของรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุบัน ก่อนที่การประมูลรอบใหม่จะเริ่มขึ้น เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคดีทุจริตยาที่ศาลตัดสินจำคุกอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะใช้อำนาจสั่งให้ ‘ยกเลิก’ บัญชีราคากลางยาส่งผลให้ราคายาแพงขึ้น ถือเป็นคดีตัวอย่างคอร์รัปชันเชิงนโยบายจนถึงทุกวันนี้
2. แบ่งเค้ก-ฮั้วราคา หรือไม่?
การประมูลครั้งนี้แยกเป็น 5 สัญญา ผลคือมีผู้เข้าประมูลเพียง 5 ราย แต่ละรายต่างชนะการประมูลรายละ 1 สัญญา โดยราคาประมูลนั้นเกือบเท่าราคากลาง แตกต่างเฉลี่ยเพียง 0.08% ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการประมูล 7 สัญญาช่วงปี 2558 – 2560 ที่บางสัญญาราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางเฉลี่ยมาก คือ ช่วงวิหารแดง – บุใหญ่ ต่ำกว่าถึง 31.99% และช่วงหัวหิน – ประจวบฯ ต่ำกว่าถึง 20.51% ประหยัดไปกว่า 3 พันล้านบาท!!!
3. กลุ่มผูกขาด
การประมูลครั้งนี้กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้มีแต่ผู้รับเหมารายใหญ่หน้าเดิมๆ ยื่นซองแล้วเอางานไปคนละสัญญา แถมได้ราคาดี แต่ทำไมงานใหญ่ขนาดนี้ไม่เปลี่ยนเกมแข่งขัน โดยเปิดให้บริษัทต่างชาติที่ทุนหนา เทคโนโลยีสูงมาร่วมประมูลจะได้มีตัวเปรียบเทียบกันมากขึ้น ผลประโยชน์และการประหยัดงบประมาณจะเกิดกับประเทศ
4. ถูกกฎหมาย แต่ขัดใจประชาชน
บ้านเมืองของเรามีคดีคอร์รัปชันมากมายที่กว่าจะถูกจับโกงได้ก็ผลาญชาติจนเสียหายไปมากแล้ว เพราะสังคมหลงเชื่อคนมีอำนาจที่คอร์รัปชันแต่ปากก็อ้างว่าโปร่งใส ทุกอย่างถูกกฎหมายแล้ว เช่น กรณีสนามฟุตซอล คลองด่าน โฮปเวลล์ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าว เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ถุงมือยาง ฯลฯ
นายมานะ ระบุว่า บ่อยครั้งที่พบว่ามีการวางแผน ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อยู่เบื้องหลัง การเปิดประมูลอีบิดดิ้งกลายเป็นเรื่องบังหน้า กลไกปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช. และศาลก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ประชาชนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีการโกงกิน ทำให้รัฐเสียหาย ซื้อแพงเกินเหตุ ของใช้การไม่ได้ หรือไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไปก็ตาม คำอวดอ้างที่ว่า ‘ไม่มีโกง เพราะทำถูกระเบียบ เป็นไปตามขั้นตอน’ จึงอาจเป็นเพียงคำลวงที่ทาให้พวกเขาดูดี แล้วลอยนวลกอบโกยได้ต่อไป
5. อย่าปล่อยตามยถากรรม
เชื่อว่า ครม. และ รฟท. มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นได้และหวังว่าจะทำด้วยจิตสานึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เปิดประมูลใหม่ทำให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างโปร่งใสกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็ให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่ามีการเจรจาต่อรองกับผู้ประมูลให้ได้เงื่อนไขดีขึ้น ทำให้ถูกต้องชัดเจน นำมาตรการตาม ‘กฎหมายฮั้วประมูล’ มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องน่ากังขาแบบนี้อีก เพราะยังมีรถไฟทางคู่สายปากน้ำโพ – เด่นชัย และสายชุมพร – ปาดังเบซาร์ เปิดประมูลอีกเร็วๆ นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 64)
Tags: ACT, ประมูลรถไฟทางคู่, มานะ นิมิตรมงคล, รถไฟ, รถไฟทางคู่, องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน