นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยเมื่อวันพุธ (19 เม.ย.) ว่า เทสลาซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ (full self-drive technology – FSD) ภายในปีนี้ และจะสร้างผลกำไรอย่างมากซึ่งจะชดเชยแรงกดดันด้านผลกำไรที่บริษัทกำลังเผชิญจากการที่ต้องลดราคารถยนต์ลงอย่างรุนแรง
นายมัสก์กล่าวในที่ประชุมว่า “ผมลังเลที่จะพูดแบบนี้ แต่ผมคิดว่าเราจะทำได้ในปีนี้”
ทั้งนี้ นายมัสก์ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้หลายปีก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความสามารถของระบบการขับขี่ด้วยตนเอง
นายมัสก์ระบุเพิ่มเติมว่า “เวอร์ชันทดสอบของซอฟต์แวร์ FSD จะเป็นการก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ถอยหลังหนึ่งก้าวระหว่างการเปิดตัว… แต่มีแนวโน้มชัดเจนมากว่าจะเป็นระบบการขับขี่ด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบ เป็นระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนี้ได้รับการพิจารณาทางกฎหมายและด้านกฎระเบียบหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน ซึ่งทางเทสลาระบุว่า เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้เองทั้งหมด และยังจำเป็นต้องมีคนขับคอยควบคุมรถอยู่ด้วย
นายแซคคารี เคิร์กฮอร์น หัวหน้าฝ่ายการเงินของเทสลากล่าวว่า “อัตรากำไรของบริษัทจากการขายรถยนต์ในไตรมาสแรกได้รับผลกระทบจากการปรับลดราคาลงอย่างมาก และความล่าช้าในการได้รับรายได้จากการขายซอฟต์แวร์ FSD โดยบริษัทจะได้รับรายได้นั้นก็ต่อเมื่อสามารถขายซอฟต์แวร์ดังกล่าว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 เม.ย. 66)
Tags: EV, ซีอีโอ, ผลิตรถยนต์, รถยนต์ไฟฟ้า, สหรัฐ, อีลอน มัสก์, เทสลา