นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 3 – 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ได้ร่วมเดินทางไปโรดโชว์กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และร่วมบรรยายหัวข้อ “Investment Opportunities in Thai Industrial Estates” ในการสัมมนาชักจูงการลงทุนในประเทศไทย ณ นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทย โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมไทยในการรองรับ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนจีน ซึ่งได้รับความความสนใจอย่างยิ่งจากผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีนที่ต้องการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยขอรับทราบแนวทางการส่งเสริมการลงทุน และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีความพร้อม รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่มีอยู่ในประเทศไทย และที่จะติดตามเข้ามาลงทุน
โอกาสนี้ คณะของ กนอ. ยังเดินทางไปเยี่ยมชมเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองหม่าอันซาน (Ma’anshan Economic and Technological Development Zone) ณ เมืองหม่าอันซาน มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 พื้นที่ 128 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม 176 แห่ง มี 3 อุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ การผลิตวัสดุอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ อุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่ และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานทางเลือก
ทั้งนี้ คณะได้เข้าเยี่ยมชมบริษัทชั้นนำที่มีความโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต 4 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบเยลลี Gummy ซึ่งใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในระบบ Warehouse และ Logistics สามารถลดจำนวนแรงงานที่ใช้ได้ 2. บริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตและจำหน่ายบล็อก/แผ่นคอนกรีตมวลเบา ซึ่งเป็นองค์กรสาธิตของมณฑลอานฮุยเพื่อการบูรณาการข้อมูลและอุตสาหกรรม ซึ่ง SCG เป็นลูกค้าของบริษัทด้วย 3. บริษัทผลิตรถหัวลากที่ใช้เทคโนโลยี New Energy Heavy Truck ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง และ 4. โรงงานผลิตและจำหน่าย Dairy products เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดนอกเขตมองโกเลียใน และเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก
คณะของ กนอ.ยังได้เข้าพบนาย ซาง เชี่ยงเฉียน (Shan Xiangqian) รองผู้ว่าการมณฑลอานฮุย และนายเกอ บิน (Ge Bin) นายกเทศมนตรีเมืองหม่าอันซาน และคณะ เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน และการจัดตั้งคณะทำงานร่วม 2 ประเทศ เพื่อสานต่อการดำเนินงานตาม MOU ระหว่าง กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนที่มีการลงนามในคราวการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาด้วย
“ผมได้เห็นการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองหม่าอันซาน เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีหม่าอันซาน (Ma’anshan Economic and Technological) ที่ทำได้อย่างดี และตรงกับเป้าหมายของ กนอ.ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ คือ การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) ทั้งนี้ หากมีนักลงทุนจากจีน หรือ จากเมืองหม่าอันซาน ต้องการขยายการลงทุนมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้ความร่วมมือตาม MOU ดังกล่าว กนอ.มีพื้นที่ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับรองรับ โดยสามารถดำเนินงานร่วมกันได้ใน 3 ทางเลือกที่ กนอ.ได้ทำการศึกษาไว้”นายวีริศ กล่าว
สำหรับ 3 ทางเลือกเพื่อการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ทางเลือกที่ 1 หาพื้นที่ลงทุนเอง โดยมีขั้นตอนการเตรียมการอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อหาพื้นที่และการจัดทำ EIA การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ทางเลือกที่ 2 ลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่จัดตั้งแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น นิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง ที่ก่อสร้างไปแล้วกว่า 55% และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2567 หรือ ลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ว่างขายและให้เช่าอยู่แล้ว และทางเลือกที่ 3 การลงทุนสร้าง สมาร์ท ซิตี้ ร่วมกับเอกชนไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 66)
Tags: MOU, กนอ., นิคมอุตสาหกรรม, วีริศ อัมระปาล