นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ตามภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ โดยตลาดคาดจะชะลอตัวลง หากออกมาตามคาดจะหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน ส่วนบ้านเราใกล้เข้าสู่หยุดยาวสงกรานต์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอย หนุนหุ้นกลุ่มการบริโภคภายในคึกคัก ให้แนวรับไว้ที่ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,609 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยนักลงทุนยังคงรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนวันนี้ โดยตลาดคาดดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่จะชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะดีดตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5% ในเดือนก.พ. ทั้งนี้หากออกมาตามคาดจะหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้น เนื่องด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่จุดพีค
ขณะที่บ้านเรา วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขาย ก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าเทศกาลดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอย หนุนหุ้นกลุ่มการบริโภคภายในประเทศคึกคัก
ให้แนวรับไว้ที่ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,609 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,684.79 จุด เพิ่มขึ้น 98.27 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,108.94 จุด ลดลง 0.17 จุด หรือ -0.004% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,031.88 จุด ลดลง 52.48 จุด หรือ -0.43%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 27,985.93 จุด เพิ่มขึ้น 62.56 จุด หรือ +0.22% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,481.53 จุด ลดลง 3.71 จุด หรือ -0.1% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,316.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.29 จุด หรือ +0.1%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.66) 1,597.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.97 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 36,038.63ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 19.90 ลบ. เมื่อวันที่ 11 เม.ย.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(11 เม.ย.) พิ่มขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 81.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย.) อยู่ที่ 5.19 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.25 แนวโน้มแกว่งแคบ ให้กรอบ 34.15-34.40 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้
– ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. แตะระดับ 53.8 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 37 เดือน รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัว ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยที่ไม่คึกคักโดยมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) เฉลี่ยต่อวันในขณะนี้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท จากเดิมการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุน Wait & See รอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน
– ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจปี 66 หุ้น IPO จ่อเทรดเพิ่มกว่า 1 เท่าตัว เหตุผู้ประกอบการน้องใหม่ เร่งตุนเงิน หวังรองรับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน ช่วยดันมาร์เก็ตแคปพุ่งทะยาน ส่วนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าไทย ยังต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศ แนะนักลงทุน วิเคราะห์ข้อมูลให้ดี
– หยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ คนไทยแห่เที่ยวต่างประเทศ “ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-ยุโรป” ขึ้นแท่น ท็อป 3 เดสติเนชั่นยอดนิยม เอเย่นต์ทัวร์ประสานเสียงปีนี้ขายดิบขายดี ปิดการขายกรุ๊ปสงกรานต์ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. มั่นใจญี่ปุ่นฮอตยาวตลอดปี หลังรัฐบาลปลดล็อกมาตรการวัคซีน 8 พ.ค.นี้ ขณะที่ “จีน” ตลาดใหม่มาแรง คิวขอวีซ่ายาวเหยียดข้ามเดือน ขณะที่ “เกาหลีใต้” เจอผลกระทบ “ผีน้อย” แพ็กเกจทัวร์ขายไม่ออก เกาหลีวางระบบกรองเข้มคนไทย ด้านสายการบินเฮ! แห่อัพราคา คาดช่วงนี้คนไทยเที่ยวนอกราว 2 แสนคน
หุ้นเด่นวันนี้
– BCH (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้าใหม่ 26.5 เดิม 26 บาท เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิและราคาเป้าหมายของ BCH ขึ้นสะท้อนข่าวประกันสังคมปรับเพิ่มค่ารักษาฯ รายหัวเพิ่ม 10% จาก 1,640 เป็น 1,808 บาท มีผล 1 พ.ค. เป็นต้นไป
– SNNP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 30.30 บาท เราคาดว่ากำไรไตรมาสที่ 1 ปีนี้จะอยู่ที่ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.4% YoY, 4.4% QoQ โดยกำไรไตรมาส 1 นี้คิดเป็น 23.1% ของการประมาณการทั้งปี ผู้บริหารคาดว่ายอดขายปีนี้จะโตขึ้น 16% QoQ จากการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/66 และไตรมาส 3/66 และสูงสุดในไตรมาส 4/66
– CPALL “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 73.65 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/66 คาดฟื้นตัว q-q และ y-y ตาม SSSG ที่ปรับขึ้นทั้ง CPALL และ MAKRO รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง q-q ขณะที่ค่าไฟขยับขึ้นจากการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย. 23 ของภาคธุรกิจ มี Catalyst หนุนจากการหาเสียงเลือกตั้งที่จะคึกคึกในเดือน เม.ย.-พ.ค. ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้คึกคัก รวมถึงการปรับลดค่า Ft ภาคธุรกิจรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 66 เหลือ 4.77 บาท/หน่วย ช่วยหนุนกำไรไตรมาส 2/66 เร่งตัวต่อเนื่อง Consensus คาดกำไรปี 2566 +28% y-y
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย