SET ปิดวันนี้ที่ 1,597.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.97 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 36,038.63 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง จากเริ่มเข้าสู่ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ และนักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันพุธนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามดัชนีฯ ได้ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ 1,600 จุด ซึ่งได้แรงหนุนมาจาก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนมี.ค.66 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง, ตัวเลข CPI ของจีน ออกมาต่ำกว่าคาด และการเข้ามาเก็งกำไรงบแบงก์ แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาด ยังแกว่งตัวในกรอบต่อ ให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,600-1,590 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,597.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.97 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 36,038.63 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งกรอบแคบๆ โดยดัชนีทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,598.03 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,590.28 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 624 หลักทรัพย์ ลดลง 726 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 571 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเริ่มเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ของสหรัฐในคืนวันพุธนี้ (12 เม.ย.) ทำให้บางส่วนชะลอการลงทุนไปก่อน
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ วันนี้ ได้ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 1,600 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนมาจาก ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมี.ค.66 อยู่ที่ระดับ 53.8 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 37 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63 และจีน เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.อยู่ที่ 0.7% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ 1% สะท้อนภาพเงินเฟ้อทั่วโลกที่ชะลอลงต่อเนื่อง รวมถึงยังมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะเริ่มประกาศออกมาในสัปาดห์หน้า โดยคาดว่าจะเติบโต QoQ และลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ YoY อีกทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนเม.ย.นี้ ด้วย
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ ยังคงแกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ และยังเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,600-1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,882.35 ล้านบาท ปิดที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,823.00 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,586.62 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,226.61 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,184.83 ล้านบาท ปิดที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย