ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในวันอังคาร (4 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,917.89 จุด ร่วงลง 369.53 จุด หรือ -1.31%
ดัชนี S&P/ASX 200 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี KOPI ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บวก 0.25% ส่วนดัชนี KOSDAQ ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 1.14%
ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (5 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 5.25% จากเดิมที่ระดับ 4.75% ในการประชุมวันนี้ โดย RBNZ ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงเผชิญภาวะถดถอยก็ตาม
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า RBNZ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันนี้
ส่วนดัชนีสำคัญทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวานนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดลบ หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วัน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.59%, ดัชนี S&P500 ร่วง 0.58% และดัชนี Nasdaq Composite ร่วง 0.52%
หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์, เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค และธนาคารรายอื่น ๆ ของสหรัฐปรับตัวลงยกแผง หลังจากที่นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคออกโรงเตือนว่า วิกฤตภาคธนาคารของสหรัฐนั้นจะส่งผลกระทบต่อเนื่องหลายปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย