นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า ตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ จาก Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ ตลาดหุ้นโดยรวมเริ่มกลับมาฟื้นตัว จากแรงหนุนด้านการเปิดประเทศของจีนที่เร็วขึ้น ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของหลายประเทศกลับมาขยายตัว ประกอบกับข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ความกังวลต่อโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ-ยุโรปลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียที่มีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา
อีกทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุด อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัว ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าห์เริ่มมีแนวโน้มที่ทรงตัว/อ่อนค่า ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้กระแสเงินลงทุนไหลกลับเข้าฝั่งเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน ไทย เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่จะมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
SCBAM จึงมองเป็นจังหวะทยอยสะสมหรือเข้าลงทุนได้ทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ จึงคัดเลือก 6 กองทุนแนะนำ ที่มีการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดี พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ “ยกเว้นค่าธรรมเนียมการซื้อและสับเปลี่ยนเข้า” เมื่อลงทุนในกองทุนที่แนะนำ ผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ตั้งแต่วันที่ 3 – 28 เมษายน 2566
สำหรับการลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย SCBAM มีกองทุนที่สอดรับธีม Rising Asia อยู่หลายกองทุน โดยมีกองทุนที่แนะนำ คือ (1) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBAEM) และ (2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ฟันด์ THB เฮดจ์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBAEMHA) ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจะลงทุนในกองทุนหลัก BGF Asian Growth Leaders Fund โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทของประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และประเทศในเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจสูงและได้รับอานิสงค์การเปิดประเทศของจีนโดยกองทุน SCBAEMHA จะแตกต่างจากกองทุน SCBAEM คือมีสัดส่วนการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging)
นอกจากนี้ SCBAM มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนกับประเทศที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ เช่น จีน และไทย ซึ่งมีการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีกองทุนที่แนะนำ คือ (3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ออล ไชน่า อิควิตี้ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBCHEQA) ลงทุนในกองทุนหลัก Schroder International Selection Fund – All China Equity ที่คัดเลือกลงทุนในหุ้นจีนรายตัวจากหลากหลายอุตสาหกรรมของจีนครบทุกตลาด (All Shares) และมีศักยภาพเติบโตระยะยาว
(4) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นธรรมาภิบาลไทย (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBTHAICGA) ลงทุนในหุ้นรายตัวของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีธุรกิจพื้นฐานดีและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงได้ในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นกองทุนที่ได้รับ Overall Rating 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap, ณ 28 ก.พ. 2566)
ทั้งนี้ ตลาดลงทุนยังมีความผันผวนอยู่ จึงยังแนะนำกระจายความเสี่ยงการลงทุนบางส่วน ไปลงทุนกับตราสารหนี้คุณภาพอย่างตราสารภาครัฐ เพื่อเสริมโอกาสการรับผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ โดยกองทุนตราสารหนี้ที่ SCBAM แนะนำคือ (5) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล บอนด์ (SCBGLOB) ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Responsible Global Aggregate Bond Fund ที่เน้นลงทุนหลักในตราสารหนี้ภาครัฐทั่วโลก ซึ่งมีความปลอดภัย จึงมีโอกาสสร้างพอร์ตการลงทุนให้สมดุลจากการเติบโตของเงินลงทุนและกระแสเงินสดรับที่สม่ำเสมอ
และ (6) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ ตลาดเกิดใหม่ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBEMBOND) ลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Emerging Markets Investment Grade Bond Fund เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพระดับ Investment Grade ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ กระจายความเสี่ยงการลงทุนตราสารในหลายอุตสาหกรรม ด้วยกระบวนการลงทุนที่เป็นระบบ โดยกองทุนได้รับ Overall Rating 5 ดาว จาก Morningstar (ประเภท Thailand Fund Emerging Market Bond , ณ 28 ก.พ. 2566)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 เม.ย. 66)
Tags: SCBAM, ตราสารหนี้, ตลาดหุ้น, ศุภรัตน์ อารีย์วงศ์