ราคาบิทคอยน์ช่วงนี้มีการขยับอยู่ในกรอบ Sideway แต่ยังบอกได้ยากว่าจะเป็นขาขึ้นแน่นอนหรือไม่ แต่ราคาเท่านี้ก็ไม่คณามือ Michael Saylor ที่ทยอยซื้อบิทคอยน์เก็บอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซื้อแต่อย่างใด
สถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไร จะซื้อตาม หรือรอดูทิศทางก่อน ต้องตัดสินใจกันเอง!!
บิทคอยน์จะสวิงแค่ไหน พ่อใหญ่ Michael Saylor ก็ยังซื้อต่อเนื่อง
หลังจากที่ Binance มีข่าวถูกฟ้อง แน่นอนว่าราคาบิทคอยน์ หรือแม้แต่เหรียญ BNB ก็ร่วงไปตาม ๆ กัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าพ่อใหญ่ Michael Saylor ก็ยังคงซื้อบิทคอยน์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดซื้อไปอีก 6,455 BTC คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้จำนวนบิทคอยน์เฉลี่ยที่ MicroStrategy ถือครองอยู่มีจำนวนสูงถึง 138,955 บิตคอยน์ ต้นทุนเฉลี่ย BTC ละ 29,817 ดอลลาร์ ใครที่ถือบิทคอยน์ และซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่านี้ อย่างน้อยเราก็ยังคงมีต้นทุนต่ำกว่า Michael Saylor
ทั้งนี้ ทาง MicroStrategy ได้มีการจ่ายหนี้เงินกู้ยืมแก่ Silvergate ไป 205 ล้านดอลลาร์ แถมยังได้ Discount ไปอีก 22% ใครที่กังวลเรื่องสภาพคล่องและภาระหนี้ของ Microtrategy ตอนนี้ก็อุ่นใจได้แล้ว
ZIPMEX โดนผู้เสียหายรวมตัวร้องเรียน เมื่อไหร่จะได้เงินคืนสักที
จากที่ก่อนหน้านี้ สายคริปโทฯ บ้านเราต้องเจ็บหนักกับ ZIPMEX กันถ้วนหน้า ล่าสุดทาง Bitcoin Addict ก็ได้รายงานว่าผู้ที่ให้เงินทุน (Funding) แก่ ZIPMEX ได้หยุดให้เงินช่วยเหลือแล้ว และทางบริษัทเตือนพนักงานเกี่ยวกับการเลิกจ้าง
เหตุการณ์นี้ก็ทำให้กราฟราคาเหรียญ ZMT ที่ราคาเหมือนจะเป็นขาลง มีเส้นดิ่งวูบให้นักลงทุนใจหายใจคว่ำทันที เพราะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุนจริง ๆ แต่เพียงไม่นาน ทาง ZIPMEX ก็ได้มีการส่งข้อความถึงนักลงทุนผ่านทางช่องทางออนไลน์ว่ายังคงให้บริการตามปกติ
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้เสียหายจากกรณีของ ZIPMEX ก็ได้รวมตัวกันเรียกร้องและส่งจดหมายแก่ สำนักงานปลัดประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ล่าช้าในกรณีของ ZIPMEX ที่ทำให้นักลงทุนเสียหายเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในเอกสารร้องเรียนก็ยังมีการระบุถึงสำนักงาน ก.ล.ต.ที่ละเลยปล่อยให้ ZIPMEX นำผลิตภัณฑ์มาโฆษณา ชักชวนนักลงทุน โดยไม่ได้ออกมาห้ามตั้งแต่แรก พร้อมทั้งระบุถึงการทำงานของสำนักงาน ก.ล.ต.ที่อนุญาตให้ผู้เสียหายเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลและส่งหลักฐานได้แค่เพียงเดือนละครั้ง ไม่สามารถนัดเวลาเพิ่มได้ ขณะที่ทาง ZIPMEX เองก็เหมือนจะโอนเรื่องให้ติดต่อกับศาลสิงคโปร์แต่เพียงอย่างเดียว เหตุการณ์เช่นนี้คิดว่าอย่างไรกันบ้าง? นักลงทุนจะได้เงินของเขาคืนรึเปล่า?
สำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมปรับเกณฑ์ นักลงทุนรายย่อยไม่ถูกจำกัดเงินลงทุนแล้ว!!
ล่าสุดทางสำนักงาน ก.ล.ต. ก็ได้มีมติเห็นชอบในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนในโทเคนดิจิทัลและเกณฑ์การให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเนื้อหาใจความสำคัญ แบ่งออกเป็น 4 ข้อย่อย ดังนี้
1) ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ยกเลิกเกณฑ์การลงทุนใน Investment Token ที่ก่อนหน้านี้จำกัดวงเงินในการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยไม่เกินรายละ 300,000 บาท คราวนี้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนใน Investment Token เท่าไหร่ก็ได้ แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงกันให้ดี ๆ
2) ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีการทบทวนหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้จะสังเกตเห็นได้ว่าไม่มีองค์กรใดที่ได้ License ของ Custodian จากสำนักงาน ก.ล.ต. เลย ตรงนี้สำนักงาน ก.ล.ต.ก็ได้มีการผ่อนเกณฑ์แล้ว ใครที่อยากทำหน้าที่เป็น Custodian ติดต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เลย
3) กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล อยากจะขยายธุรกิจแตกไลน์ไปทำธุรกิจอื่น ผู้ประกอบธุรกิจต้องแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต. ล่วงหน้า เพื่อที่ทางสำนักงาน ก.ล.ต. จะสามารถติดตามได้
และข้อสุดท้ายก็เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ด้านความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4) โดยกรรมการ ผู้บริหารผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จะต้องไม่เคยถูกปฏิเสธการให้ใบอนุญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องไม่มีประวัติการทำผิด หรือแม้แต่เข้าข่ายก็ไม่ได้ และต้องห้ามให้บริการผ่านผู้บริการอื่นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อยกระดับคุณภาพ ความน่าเชื่อถือของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมนั่นเอง
ปัจจุบันเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อนี้ก็กำลังมีการเปิด Hearing กันอยู่ ใครมีความคิดเห็นว่าอย่างไร อย่าลืมแจ้งให้ ก.ล.ต. กัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 66)
Tags: Cryptocurrency, Michale Saylor, คริปโทเคอร์เรนซี, บิทคอยน์