นักวิเคราะห์มองว่า การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของอาลีบาบาจะทำให้การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเคยถูกระงับไปเมื่อเดือนพ.ย. 2563 กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
อาลีบาบาเป็นเจ้าของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป 33% ซึ่งดำเนินธุรกิจอาลีเพย์ หนึ่งในสองแอปชำระเงินบนมือถือที่ครองตลาดจีน
นายดิกกี้ หว่อง ผู้อำนวยการบริหารของคิงส์ตัน ซีเคียวริตี้ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Street Signs Asia” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า “ผมเชื่อมั่นว่าอาลีบาบากำลังมุ่งสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น” พร้อมเสริมว่า “ในแง่ของภาพรวม เห็นได้ชัดว่า แอนท์ กรุ๊ปกำลังกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง”
นอกจากนี้ นายหว่องกล่าวถึงแผนการปรับโครงสร้างใหม่ของอาลีบาบาว่า “นี่อาจเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอาลีบาบา” พร้อมเสริมว่า แม้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงตามที่คาดไว้จะไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็มีความหวังว่าดีลดังกล่าวจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
อาลีบาบาปรับโครงสร้างโดยการแบ่งออกเป็นธุรกิจ 6 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีฝ่ายบริหารของตนเอง และสามารถทำการระดมทุน รวมทั้งเข้าจดทะเบียนในตลาด โดยอาลีบาบาระบุว่า การปรับโครงสร้างดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น และเพิ่มความสามารถของการแข่งขันในตลาด
การปรับโครงสร้างดังกล่าวของอาลีบาบามีขึ้น หลังจากบริษัทเผชิญแรงกดดันมานานหลายปีจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการคุมเข้มจากรัฐบาลจีน ส่งผลให้ราคาหุ้นของอาลีบาบาดิ่งลงคิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ธุรกิจ 6 กลุ่มตามการปรับโครงสร้างใหม่ของอาลีบาบา มีดังนี้:-
*Cloud Intelligence Group – ดูแลธุรกิจคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
*Taobao Tmall Commerce Group – ดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งรวมถึง Taobao และ Tmall
*Local Services Group – ดูแลธุรกิจเดลิเวอรีอาหาร
*Cainiao Smart Logistics – ดูแลธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์
*Global Digital Commerce Group – ดูแลธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง AliExpress และ Lazada
*Digital Media and Entertainment Group – ดูแลธุรกิจสตรีมมิ่งและภาพยนตร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 66)
Tags: อาลีบาบา, แอนท์ กรุ๊ป