แฟลช ฟูลฟิลล์เม้นท์ ( Flash Fulfillment) ภายใต้การบริหารของ แฟลช กรุ๊ป ( Flash Group) นำหุ่นยนต์ AI อัจฉริยะ Robot Automated มาตรฐานระดับโลกเข้ามาใช้ช่วยบริหารจัดการคลังสินค้า ชูจุดเด่นสามารถรองรับออเดอร์ได้หลักแสนต่อวัน ตั้งแต่บริการเก็บสต๊อกสินค้า บริการแพ็กสินค้า พร้อมทั้งบริการจัดส่งให้ถึงปลายทาง
นายคมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร Flash Group กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของธุรกิจเน้นการนำ Tech และ AI เข้ามาช่วยพัฒนา และจัดการระบบหลังบ้านในช่วงยุคทองของ E-commerce เนื่องจากปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งธุรกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก รวมถึง SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ต่างก็ต้องพึ่งพาบริการของ Fulfillment เพื่อเข้ามาช่วยเสริมความคล่องตัวในธุรกิจของตนเอง และถือเป็นส่วนสำคัญในซัพพลายเชนของธุรกิจ
แฟลช ฟูลฟิลล์เม้นท์ ถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด Robot (หุ่นยนต์) เข้ามาเพิ่มศักยภาพในการบริการจัดการภายในคลังสินค้า ทั้งการลำเลียงสินค้าอัตโนมัติที่แม่นยำ และช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ตอกย้ำกลยุทธ์หลักที่บริษัทให้ความสำคัญในการใช้ Tech เข้ามาบริหารจัดการระบบหลังบ้านที่จะทำให้การจัดการสินค้าทั้งหมดของลูกค้าเป็นไปอย่างคล่องตัว และครบวงจร ภายใต้ระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้สามารถรองรับออเดอร์ได้เพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบันสามารถรองรับปริมาณสินค้าหมุนเวียนเข้า-ออกของลูกค้าได้มากถึงหลักแสนออเดอร์ /วัน จากเดิมเพียง 15,000 ออเดอร์/วันเท่านั้น โดยกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทมี 2 กลุ่ม คือ B2B และB2C ตลอดจนลูกค้าในกลุ่ม Marketplace เช่น Lazada ,Shopee และกลุ่มลูกค้า Live Facebook ,TikTok เป็นต้น
ปัจจุบัน แฟลช ฟูลฟิลล์เม้นท์ ได้ขยายการให้บริการไปยังต่างประเทศแถบอาเซียนแล้วใน 6 ประเทศได้แก่ ประเทศเวียดนาม ,ฟิลิปินส์ ,ลาว ,มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุม SEA เพื่อเป็นฐานที่แข็งแกร่งให้กับ E commerce platform ต่อไป
นอกจาก ระบบ AGV (Automated Guided Vehicle) หุ่นยนต์ลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ และระบบ RCS (Robot Control System) ระบบระบุตำแหน่งสินค้าสำหรับหุ่นยนต์อัตโนมัติ ที่ถือเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ แฟลช ฟูลฟิลล์เม้นท์ นำเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการภายในคลังแล้ว ยังมีระบบซอฟท์แวร์ที่ทันสมัยที่สุดที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce แบบครบวงจร เช่น ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ระบบเชื่อมโยงข้อมูล API กับแพลตฟอร์มการขายอื่นๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ในระบบเดียว และการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสินค้าคงคลังออนไลน์ และออฟไลน์ ,ระบบ WMS (Warehouse Management System) ระบบจัดการภายในคลังสินค้าเพื่อช่วยควบคุม และติดตามสินค้าได้แบบ Real Time และระบบ SCM (Supply Chain Management) การจัดการความลื่นไหลของกระบวนการต่างๆภายในคลัง หรือ ระบบตรวจเช็คการรับเข้าและนำออกสินค้า เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 66)
Tags: คมสันต์ ลี, แฟลช ฟูลฟิลล์เม้นท์, โลจิสติกส์