SABINA ปิดดีลเข้าซื้อ “โมดา” ปูพรมวางขายสินค้า 44 ร้านในห้างชั้นนำทั่วฟิลิปปินส์

SABINA ปิดดีลซื้อหุ้น “โมดา” ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในฟิลิปปินส์ด้วยการเข้าถือหุ้นใหญ่ 77.33% ของทุนจดทะเบียน พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ มั่นใจธุรกิจเติบโตตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์และกำลังซื้อที่มีโอกาสขยายตัวสูง จากจำนวนประชากรและรายได้ต่อหัว

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า (SABINA) ได้ลงนามร่วมกับ Mrs. Cecilia Valdez-Saculo ผู้บริหาร บริษัท โมดา เอสบีเอ็น จำกัด (Moda SBN) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกและเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor) สินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากบริษัท ซาบีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SABINA บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้น “โมดา” ในสัดส่วน 77.33% ของทุนจดทะเบียน

การตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น “โมดา” ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ SABINA ขยายการลงทุนในต่างประเทศในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ เพราะที่ผ่านมาการขยายสู่ตลาดต่างประเทศของ SABINA จะดำเนินการในรูปแบบของข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ การเลือกประเทศฟิลิปปินส์เป็นหมุดหมายแรก นอกจากจะมาจากกำลังซื้อที่มีโอกาสเติบโตสูงจากจำนวนประชากรที่มากกว่า 112 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังเป็นผู้หญิงมากถึง 49.9% โดยเฉพาะผู้หญิงในกลุ่ม Gen Z (อายุระหว่าง 10-24 ปี) 29% และกลุ่ม Gen Millennium (อายุระหว่าง 25-39 ปี) 24% ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ SABINA แล้ว ยังมีไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ที่มีความชื่นชอบและมั่นใจสินค้าแบรนด์ไทยเป็นอย่างมากอีกด้วย

“ลูกค้าฟิลิปปินส์ชื่นชอบคุณภาพสินค้า “ซาบีน่า” อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราทำตลาดผ่าน “โมดา” ในฐานะตัวแทนจำหน่ายได้อย่างน่าสนใจ จนถึงจุดที่เราคิดว่าต้องขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ทำให้เราศึกษาข้อมูลตลาดในฟิลิปปินส์อย่างจริงจัง และพบว่าตลาดค้าปลีกในฟิลิปปินส์ยังเติบโตได้อีกมาก เห็นได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 65 สูงถึง 7.6% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 62 ขณะที่ปี 66 ก็ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ต่อหัวของประชากรอยู่ในระดับสูง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นี่มีความสุขกับการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ “โมดา” ก็มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในตลาดค้าปลีกของฟิลิปปินส์ และมีหัวใจของการบริการซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับธุรกิจ ทำให้เรามั่นใจและเลือกที่จะลงทุนในฟิลิปปินส์” นางสาวดวงดาวกล่าว

ปัจจุบัน “โมดา” มียอดขายประมาณ 50-60 ล้านบาท ซึ่ง SABINA จะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนหุ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/66 ที่ผ่านมา “โมดา” สร้างการเติบโตผ่านการขยายร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของฟิลิปปินส์จากจำนวน 31 แห่งในปี 63 เพิ่มเป็น 34 แห่งในปี 64 และ 38 แห่งในปี 65 โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 44 แห่งในปี 66 และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 200 ล้านบาทได้ภายใน 5 ปี

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดชุดชั้นใน “ซาบีน่า” ในฟิลิปปินส์หลังจากนี้ นอกจากจะขยายจำนวนร้านค้าตามแผนเดิมของ “โมดา” ที่มีความแข็งแกร่งในการบุกตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำแล้ว SABINA จะทำตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าสไตล์โมเดิร์นเทรด รวมถึงป๊อปอัพสโตร์ หรือการตั้งร้านชั่วคราวตามจุดต่างๆ ที่มีความหนาแน่นของลูกค้า และการขยายผ่านออนไลน์ในรูปแบบที่ไม่หน้าร้าน ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในฟิลิปปินส์ และเป็นตลาดที่ SABINA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้เชื่อว่า การเติบโตของ “โมดา” ในปีนี้จะขยายตัวได้มากถึง 20-30% จากปีก่อน

“นอกจากขยายตลาดในต่างประเทศแล้ว SABINA ยังมีแผนสำหรับตลาดในประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเราพยายามจับกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากการปรับปรุงหน้าร้านซาบีน่าช็อป การจัดวางสินค้า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งสัญญาณยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าที่เราประเมินไว้ ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เราจะรับรู้รายได้และกำไรจาก “โมดา” ที่จะช่วยหนุนให้งบการเงินของ SABINA แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 66)

Tags: , , , ,