SEMI ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติในสหรัฐ คาดการณ์ว่า เกาหลีใต้น่าจะแซงหน้าจีนในด้านการเพิ่มการใช้จ่ายในอุปกรณ์ผลิตชิปขั้นสูงในปีหน้า อันเป็นผลพวงจากการที่จีนผลิตชิปได้ลำบากขึ้น เพราะสหรัฐออกมาตรการกีดกันไม่ให้จีนซื้ออุปกรณ์การผลิตได้ง่าย ๆ
ทางสมาคมฯ ชี้ว่าเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนในเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์อีก 41.5% สู่ระดับ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ในขณะที่จีนน่าจะเพิ่มการลงทุนเพียง 2% สู่ระดับ 1.66 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการซื้อเครื่องจักรที่มีความสำคัญเพื่อปรับปรุงชิปของตน เพราะมาตรการควบคุมที่สหรัฐประกาศไว้นั้นทำให้จีนเข้าถึงอุปกรณ์จากผู้ผลิตที่มีเพียงไม่กี่รายได้ยากยิ่งขึ้น เช่น เอเอสเอ็มแอล โฮลดิง เอ็นวี (ASML Holding NV) ของเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นนั้นจำกัดการส่งออกไปจีนตามรอยสหรัฐด้วย ทำให้จีนไม่สามารถเข้าถึงชิปและอุปกรณ์ล้ำสมัยที่สุดจากบริษัทอย่างอินวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp) และโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron Ltd.) ได้
นอกจากนี้แล้ว ข้อจำกัดของสหรัฐที่มีต่อจีนอาจส่งผลให้ซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปของสหรัฐอย่างแอพพลายด์ แมททีเรียลส์ อิงค์ (Applied Materials Inc.,) แลม รีเสิร์ช คอร์ป (Lam Research Corp.) และเคแอลเอ คอร์ป (KLA Corp) สูญเสียยอดขายนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค. ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ประกาศแผนการลงทุนในศูนย์การผลิตชิปทางตอนใต้ของกรุงโซล ด้วยเงินสนับสนุน 300 ล้านล้านวอน (2.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics Co.) ตลอด 2 ทศวรรษข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 66)
Tags: จีน, ชิป, ผลิตชิป, เกาหลีใต้, เซมิคอนดักเตอร์