ORI ฟาดยอดขาย Q1/66 ได้ 1 หมื่นลบ.หลัง 2 เดือนแรกโตต่อเนื่อง

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า แนวโน้มของยอดขายในไตรมาส 1/66 คาดว่าจะทำได้ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายทั้งปี 66 ที่ตั้งไว้ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาถือว่าในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ. 66) ยอดขายของบริษัทถือว่าทำได้มาค่อนข้างดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ไปก่อนหน้าในปีก่อน ทำให้มีสินค้าที่พร้อมนำเสนอให้กับลูกค้า อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา และคนมีความต้องการซื้อบ้านมากขึ้น ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ยังเห็นการปรับตัวมากขึ้น

โดยบริษัทได้นำโครงการที่มีรวมถึงโครงการใหม่ มาร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 มี.ค. 66 ที่ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยบริษัทได้วางเป้าหมายยอดขายภายในงานไว้ที่ 1 พันล้านบาท โดยที่บริษัทได้นำโครงการมารวมงานดังกว่ามูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ทั้งโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการขาย และโครงการเปิดตัวใหม่ๆ ซึ่งในงานนี้บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “The ORIGIN” พร้อมกัน จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกัน 9.9 พันล้านบาทด้วย

สำหรับในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย มีความคาดหวังให้รัฐบาลชุดใหม่ปรับลดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการพำนักของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทย จากเดิมที่มีการเสนอในวงเงิน 40 ล้านบาท ให้สิทธิ์การอยู่ถึง 10 ปี นั้น เป็นการกำหนดคุณสมบัติที่สูงเกินไปควรจะปรับมาให้อยู่ในระดับกลางๆที่ 3-5 ล้านบาท จะช่วยประเทศในเรื่องการขายให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น และให้สิทธิ์การอยู่อาศัย 3-5 ปี เพราะกลุ่มดังกล่าวจะมียอดจับจ่ายใช้สอยที่สูง โดยเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 1 ล้านบาท/คน/ปี เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 50,000-100,000 บาท

นอกจากนี้มีข้อเสนอในการทบทวนมาตรการผ่อนปรน LTV น่าจะขยายไปจนถึงปลายปี 67 เนื่องจากองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังมีอยู่ แต่เป็นการฟื้นตัวแบบเปราะบาง ขณะที่ผู้ซื้อเงินในกระเป๋ายังมีน้อยอยู่ ทำให้ความสามารถในการกู้มีอยู่น้อย และการหันมาส่งเสริมเรื่องการมีบ้านหลังแรก โดยอาจมีเงื่อนไข บ้านหลังแรกแบ่งแยกตามประเภท เช่น คอนโดมิเนียมไม่เกิน 2 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ ไม่เกิน 3-4 ล้าน ให้มีโอกาสได้สิทธิ์โครงการบ้านหลังแรกและกำหนดเงื่อนไขห้ามรีไฟแนนซ์ โดยอัตราส่วนการลดหย่อนภาษี 10% ของราคาบ้าน ทำให้จูงใจคนซื้อมากขึ้น และสร้างมูลค่าให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ 6-7 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งขับเคลื่อนโครงการบ้าน บีโอไอ ตามที่ได้มีการเรียกร้อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายรองให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในเรื่องของบ้าน บีโอไอ ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่และต้องรอการคัดสรรกรรมการผู้จัดการ ธอส. คนใหม่ และ บีโอไอ รวมกันในการขับเคลื่อนบ้านบีโอไอให้สำเร็จ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 66)

Tags: , , ,