สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันมากสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.พ. ท่ามกลางคำเตือนว่าการแพร่ระบาดระลอกปัจจุบันซึ่งเกิดจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายอาจยังต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์จึงจะถึงจุดสูงสุด
กระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรรายงานว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย. มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มกว่า 11,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 19 ราย
การศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษแสดงให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มอายุ แต่จะสูงที่สุดในกลุ่มผู้มีอายุ 20-29 ปี นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังระบุด้วยว่า ผู้ใหญ่ 8 ใน 10 คนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย ทำให้รัฐบาลต้องชะลอแผนการที่จะยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เหลือในเดือนนี้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศชะลอแผนยกเลิกมาตรการต่างๆ ออกไปอีก 4 สัปดาห์เพื่อให้ผู้ใหญ่จำนวนมากขึ้นได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 2 ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ
“เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องฉีดวัคซีนเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น” อีวอนน์ ดอยล์ ผู้อำนวยการด้านสุขภาพของสาธารณสุขอังกฤษกล่าว “อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มอายุและทุกภูมิภาคทั่วอังกฤษ และเราพบว่ามีจำนวนผู้ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นด้วย”
งานวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (17 มิ.ย.) พบว่าโรคโควิด-19 ในอังกฤษกำลังเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประชาชนอายุน้อยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, บอริส จอห์นสัน, อังกฤษ, โควิด-19