นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบและน้ำนมโคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอราคาน้ำนมโคแลผลิตภัณฑ์นม ซึ่งมิลค์บอร์ดจะเสนอ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้จะมีการปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบหน้าศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบปี 2566 จากกิโลกรัมละ 19 บาท เป็น 21.25 บาท และ ปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมโคหน้าโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมปี 2566 จากกิโลกรัมละ 20.25 บาท เป็น 22.75 บาท
นอกจากนี้ให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาทบทวนการกำหนดราคากลางรับซื้อน้ำนมโค ณ ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ และ ณ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ของต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา, ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาแนวทางในการควบคุมราคาปัจจัยการผลิตและราคาอาหารสัตว์ และพิจารณาการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นม (นมพาณิชย์) ให้เหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งต้นทุนน้ำนมดิบและต้นทุนอื่นๆ ของผู้ประกอบการ, ให้คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน พิจารณาการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นม (นมโรงเรียน) ให้เหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งต้นทุนน้ำนมดิบและต้นทุนอื่น ๆ ของผู้ประกอบการ และเสนองบกลางให้กับหน่วยจัดซื้อ และ ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมแจ้งมติให้คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารสัตว์ รวมทั้งแนวทางอื่นๆ ในการปรับลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเลี้ยงโคนมได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังผู้ประกอบการและผู้บริโภคด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 66)
Tags: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ต้นทุนสูง, น้ำนมดิบ, น้ำนมโค, ราคาน้ำนม, เกษตรกร