นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นรีบาวด์ในกรอบแคบ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังปรับตัวลงแรง แต่ยังมีปัจจัยกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ส่วนปัจจัยหนุนยังเป็นราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง หนุนกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น โดยให้แนวต้าน 1,600 จุด แนวรับ 1,580 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ลุ้นโอกาสรีบาวด์ หลังปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับตัวขึ้นมาอาจจะไม่มากนัก เป็นการแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบๆ เพราะตลาดยังคงมีแรงกดดันจากความกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และอาจจะมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนที่ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ 3 วัน แต่ยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ส่วนปัจจัยการนำหุ้นเข้าออก MSCI เป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว
ให้แนวต้าน 1,600 จุด แนวรับ 1,580 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,730.30 จุด ลดลง 103.81 จุด หรือ -0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,930.08 จุด ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,370.96 จุด เพิ่มขึ้น 6.73 จุด หรือ +0.06%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,918.80 จุด เพิ่มขึ้น 170.08 จุด หรือ +0.66% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,615.99 จุด เพิ่มขึ้น 235.65 จุด หรือ +1.22% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,068.03 จุด เพิ่มขึ้น 13.04 จุด หรือ +0.43%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 พ.ค.) ที่ระดับ 1,584.52 จุด ลดลง 28.82 จุด, -1.79%
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 643.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(12 พ.ค.) เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 106.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 พ.ค.) อยู่ที่ 20.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.70 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย ให้กรอบเคลื่อนไหววันนี้ 34.60-34.75
– คลังชงครม.2 ทางเลือกลดภาษี น้ำมันดีเซล ต่ำสุด 3 บาทต่อลิตรต่อเนื่อง 3 เดือน และสูงสุด 5 บาท แต่ไม่ถึง 3 เดือน ใช้งบ 2 หมื่นล้าน หลังประเมินสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อดันราคาน้ำมันดิบพุ่ง พร้อมต่ออายุ “คนละครึ่ง” เฟสที่ 5 กระตุ้นกำลังซื้อ ลดค่าครองชีพ ลดแรงกดดันเงินเฟ้อ
– สธ.เดินหน้าโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น คาดปลายพ.ค.-มิ.ย. สถานการณ์จะเข้าสู่ระยะโรคลดลงเตรียมชงศบค.ผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ปรับลดเตือนภัยเหลือระดับ 2 พ.ค.นี้ จ่อเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ แต่กลุ่ม 608-รับวัคซีนไม่ครบควรงดและเลี่ยง ส่วนรักษาโควิดฟรีหลังเป็นโรคประจำถิ่น เข้าระบบตามสิทธิ
– ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสลิงชอท เปิดเผยผลสำรวจซีอีโอ 50 องค์กรชั้นนำของไทย ประเด็นคาดหวังปี 2565 เพื่อธุรกิจรอดในช่วง 2 ปีที่ผ่าน พบว่าวิกฤตโรคระบาดเป็นเพียงสนามซ้อมใหญ่ แต่ต่อไปนี้การบริหารบนความไม่แน่นอนจะกลายเป็นความปกติใหม่ ต้องเริ่มกลับมาทบทวนกลยุทธ์เพื่ออยู่ให้ชนะอย่างยั่งยืนบนความไม่แน่นอน ซึ่งพบว่า มี 7 เทรนด์ที่ซีอีโอให้ความสำคัญ คือ 1.ความต้องการแรงงานทักษะขั้นสูงและทักษะหลากหลาย แต่หาไม่ได้ง่าย จะเกิดการแย่งแรงงานกลุ่มนี้
หุ้นเด่นวันนี้
– EKH (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท กำไรไตรมาส 1/65 โตแกร่ง +38% Q-Q, +123% Y-Y หนุนจากการระบาดของโอมิครอนทำให้รายได้โตเด่น ขณะที่ต้นทุนควบคุมได้มีประสิทธิภาพ ทำให้ Margin ขยายตัวอย่างมีนัยยะ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นเป็น -36% Y-Y และยังคงเป็นระดับ New High เทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ระยะยาวคาดได้ประโยชน์จาก Synergy ร่วมกับกลุ่ม RAM รวมถึงการต่อยอดธุรกิจการแพทย์ด้านความงามและโรงพยาบาลผู้สูงอายุ
– INTUCH (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท หุ้นสายปลอดภัย หนุนด้วยปันผลมากว่า 4% ต่อปี (Bloomberg Consensus) บ. ในกลุ่มที่สำคัญอย่าง ADVANC พื้นฐานยังแกร่งรายได้มีความสม่ำเสมอ กรณีที่ GULF เอาคณะกรรมการออก 2 ท่านไม่มีผลต่อการบริหารงานของ INTUCH ด้าน GULF ยังมีการซื้อหุ้น INTUCH เพิ่ม ติดตามการ Synergy Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 1.1 หมื่น ลบ. และ 1.2 หมื่น ลบ. +7%YoY, +9%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, หุ้นไทย