- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,584.52 จุด ลดลง 28.82 จุด (-1.79%) มูลค่าการซื้อขาย 92,529.65 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน และเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,607.88 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,580.10 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 362 หลักทรัพย์ ลดลง 1,654 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 235 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากเมื่อคืนนี้สหรัฐฯประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.8.3% สูงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยหนุนตลาด ทำให้แรงขายทำกำไรออกมามากกว่าแรงซื้อ และยังต้องติดตามการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยของ MSCI ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการนำหุ้นเข้าและออกอย่างไร ทำให้ Sentiment ของตลาดในช่วงนี้ยังไม่ค่อยดี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นภาพในช่วงสั้น หลังจากเผชิญกับแรงขายออกมามากแล้ว แต่ยังต้องติดตามทิศทางของตลาดต่างประเทศและปัจจัยต่างประเทศว่าจะมีประเด็นใหม่เข้ามามีผลต่อตลาดหรือไม่ เพราะยังคงมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอยู่มาก
โดยให้แนวต้านที่ 1,600-1,605 จุด แนวรับ 1,575-1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- JMT มูลค่าการซื้อขาย 3,934.70 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 4.25 บาท
- PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,861.55 ล้านบาท ปิดที่ 44.75 บาท ลดลง 3.25 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,574.47 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,497.92 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,318.51 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 65)
Tags: SET, SET Index, ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย