นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ หากออกมาต่ำกว่าคาดที่ 8.1% จะ<เป็นผลดีต่อตลาดให้ปรับตัวขึ้น แต่หากออกมาสูงกว่าคาดจะเป็นการตอกย้ำความเชื่อว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ให้แนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ หลังรีบาวด์มาในระดับหนึ่ง โดยนักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ในคืนนี้ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 8.1% ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ที่อยู่ที่ 8.5% ทั้งนี้หากออกมาต่ำกว่าคาดจะส่งผลดีต่อตลาดให้ปรับตัวขึ้นได้ดี แต่หากออกมาสูงกว่าคาดจะยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน ซึ่งนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเหมือนกันทั่วโลก
ให้แนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,160.74 จุด ลดลง 84.96 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,001.05 จุด เพิ่มขึ้น 9.81 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,737.67 จุด เพิ่มขึ้น 114.42 จุด หรือ +0.98%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,045.38 จุด ลดลง 121.72 จุด หรือ -0.47% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,511.80 จุด ลดลง 121.89 จุด หรือ -0.62% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,035.39 จุด ลดลง 0.45 จุด หรือ -0.01%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 พ.ค.) ที่ระดับ 1,622.78 จุด เพิ่มขึ้น 18.29 จุด, +1.14%
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,600.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(10 พ.ค.) ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 99.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 พ.ค.) อยู่ที่ 21.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.63 แนวโน้มผันผวนในกรอบ 34.55-34.75 รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้
– นายกฯพร้อมต่อมาตรลดภาษี สรรพสามิตดีเซล 3 บาทต่อลิตร ย้ำขอดูให้รอบคอบ สั่งเข้า ครม.สัปดาห์หน้า ครม.เคาะงบกลาง 1,725 ล้านบาท ลดค่าเอฟที 4 เดือน พลังงานชี้ลด B5 ลง 2% ไม่ช่วยราคาดีเซลแต่ลดแรงกดดันน้ำมันพืช ด้าน ม.หอการค้าไทยหนุนพยุงราคาน้ำมันหวัง ดันเศรษฐกิจโตตามเป้า
– ก.ล.ต. เผย ครม. เห็นชอบ ยกเว้นภาษี-ลดค่าธรรมเนียม “รีทบายแบ็ค” เอื้อผู้ประกอบการเข้ามา ระดมทุน เผย จากสำรวจ พบ 5-10 บริษัทสนใจ มูลค่าเสนอขาย 2 หมื่นล้าน ล่าสุดอนุมัติไฟลิ่งเพิ่มอีก 1 บริษัท ด้านคลังคาด มูลค่าลงทุนในทรัพย์สินราว 3 หมื่นล้าน หลังมีมาตรการสนับสนุน
– ธุรกิจกลางคืน ร้องนายกฯ ถกศบค.ชุดใหญ่ เร่งเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ฟื้นธุรกิจ 3 แสนล้านบาท ขอนำร่องใน 26 จังหวัดท่องเที่ยว 1 มิ.ย.นี้ ก่อนเปิดทั่วประเทศ 1 ก.ค.นี้ จี้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดโซนนิ่งพื้นที่พิเศษ ปลุกการท่องเที่ยวยามค่ำคืนในแหล่งท่องเที่ยวศักยภาพสูง
– กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวิกฤต เหลือเงินสดติดบัญชีแค่ 12,932 ล้านบาท พอตรึงราคาน้ำมันดีเซลถึงสิ้นเดือนมิถุนายน หลังผ่านมา 6 เดือนยังไม่มีธนาคารไหนยอมปล่อยกู้ สุดท้ายเหลือ 2 ทางเลือก เร่งขอเงินกู้แบงก์รัฐภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม กับของบประมาณรัฐมาช่วย
– ยักษ์ธุรกิจแห่ขายหุ้นกู้ตุนสภาพคล่อง ดอกเบี้ยเสนอขายเริ่มขยับ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเผย 5 เดือนแรก เสนอขายราว 5 แสนล้านบาท 2 ยักษ์ “กลุ่ม ปตท.-เครือ ซี.พี.” สปีดขายหุ้นกู้เดือน เม.ย.-พ.ค. เฉียดแสนล้าน “กสิกรไทย” ชี้เห็นความต้องการใช้เงินของกลุ่มธุรกิจใหญ่เกือบทุกกลุ่ม เร่งล็อกต้นทุน หวั่นครึ่งปีหลังดอกเบี้ยเร่งตัวแรง จับตาเดือน พ.ค.เข้าคิวขายเพียบ “บี.กริม-ช่อง 3-ทรูมูฟ เอช-ซีพี ออลล์-ปตท.-ไออาร์พีซี” รวมทั้ง “แมกโนเลียฯ” ของลูกสาวเจ้าสัวธนินท์เปิดขายหุ้นกู้น็อนเรตจ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.10% ต่อปี
*หุ้นเด่นวันนี้
– ASIAN (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 23 บาท) ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี งบไตรมาส 1/65 ออกมาดีตามคาดทำได้ 248 ล้านบาท +15yoy ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาด
– PTG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.70 บาท แนวโน้มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยในไตรมาส 1/65 คาดพลิกกลับมาเป็น QoQ แม้ปริมาณขายลดลงเนื่องจากตั้งราคาขายน้ำมันดีเซลสูงกว่า 30 บาท/ลิตร แต่จะได้รับการชดเชยจากค่าการตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจ LPG และ Non-oil ยังดีขึ้นหลังจากที่มีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่วนในไตรมาส 2/65 ทยอยดีขึ้นต่อเนื่องจากการปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันไดของภาครัฐ ช่วยลดแรงกดดันด้านค่าการตลาด โดย PTG จะปรับกลยุทธ์ลดราคาขายดีเซลลงให้เท่ารายอื่น ส่งผลให้ปริมาณขายรวมกลับมาขยายตัวดีขึ้น
– KBANK (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 152.00 บาท ราคาหุ้นมีโอกาส Bottom out หรือมี Down side จำกัด หลังปรับฐานมากว่า 10 วันทำการ โดยพื้นฐานแล้วหุ้นธนาคารเป็นกลุ่ม Domestic Play คาดมีโอกาสฟื้นตามตลาด ประเมินลูกหนี้ในกลุ่มท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ลดแรงกดดันเรื่องการตั้งสำรองและ NPL KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 4.2 หมื่น ลบ. และ 4.4 หมื่น ลบ. +10.7%YoY, +5.4%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย