สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2562-2563 นางสาวอรอุมาได้ปลอมแปลงลายมือชื่อขายหน่วยลงทุนและถอนเงินค่าขายออกจากบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้าโดยไม่ใช่ความประสงค์ของลูกค้า และระหว่างปี 2561-2563 ได้ปลอมแปลงลายมือชื่อลูกค้าเพื่อถอนเงินออกจากบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 1,912,700 บาท
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า นางสาวอรอุมาไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวอรอุมาเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายการซื้อขายหน่วยลงทุนที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) หรือ ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (selling agent) จัดส่งให้อย่างสม่ำเสมอ และหากพบการซื้อขายที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้สั่งควรปฏิเสธหรือทักท้วงโดยทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และตรวจสอบบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ กรณีมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือ เฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 65)
Tags: ก.ล.ต., ผู้แนะนำการลงทุน