นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงจะชะลอเรื่องที่จะยื่นเอาผิดผู้เกี่ยวข้องในโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาทต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ไว้ก่อน
หลังจากทางกรมธนารักษ์ได้เลื่อนการลงนามสัญญากับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด
อย่างไรก็ตามได้ไปยื่นเรื่องต่อนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการศึกษาและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบความโปร่งใสการดำเนินโครงการแล้ว เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่จบแค่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเท่านั้น
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่มีความผิดปกติชัดเจนคือ เหตุใดไม่มีการเปิดประมูลโครงการแบบ e-Bidding ให้ทุกบริษัทเข้ามาแข่งขันกัน แต่กลับใช้วิธีเรียกมาแค่ 5 บริษัท ในการแข่งขันเสนอราคา และสรุปให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะ เพราะถ้าเปิดให้บริษัทใหญ่อื่นๆ อย่าง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ. ช.การช่าง (CK) หรือ บมจ. ซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริ่ง (STEC) เข้าร่วมประมูลด้วย อาจจะเสนอราคามากว่าบริษัท วงษ์สยาม ให้ผลประโยชน์ต่อรัฐบาล เรื่องนี้ถ้าไม่มีความผิดปกติ นายกฯคงไม่สั่งถอยให้กลับมาตรวจสอบก่อน เชื่อว่าเป็นประเด็นที่ล้มรัฐบาลได้
ส่วนการยื่นเอาผิดต่อป.ป.ช.นั้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า คงต้องรอหลังจากเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่จะยื่นเอาผิดต่อป.ป.ช. เพราะมีผู้อยู่ในข่าย 5 ราย ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล 2.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง 4.คณะกรรมการที่ราชพัสดุ 6 คน ที่ลงมติรับรองให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง เป็นผู้ชนะประมูล 5.นายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่เร่งรีบให้เปิดซองประกวดราคาในวันที่เกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.64 ถ้าจะทำให้โปร่งใสจริง ต้องเปิดให้มีการประมูลใหม่ โดยเรียกบริษัทใหญ่อื่นๆทุกบริษัทมาร่วมประมูลด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ค. 65)
Tags: EEC, ท่อส่งน้ำอีอีซี, พรรคเพื่อไทย, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร