ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงก่อนหน้านี้ โดยยังคงมีความกังวลจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีน และการใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด รวมถึงการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,726.65 จุด เพิ่มขึ้น 135.87 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,244.96 จุด เพิ่มขึ้น 375.62 จุด หรือ +1.89% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 2,955.93 จุด เพิ่มขึ้น 27.42 จุด หรือ +0.94%
นักลงทุนในภูมิภาคยังจับตาสถานการณ์โควิด-19 ในจีน โดยทางการจีนสั่งล็อกดาวน์ย่านที่อยู่อาศัยหลายสิบแห่งในเมืองเฉาหยาง กรุงปักกิ่ง และปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว 3 ครั้งในสัปดาห์นี้ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายสิบรายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กรุงปักกิ่งเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ส่วนความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัวเพียง 0.7% ในไตรมาส 1/2565 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 4/2564 ที่ขยายตัว 1.2% เนื่องจากการอุปโภคบริโภคและการลงทุนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และความไม่แน่นอนที่เกิดจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพียง 4.9% ในปี 2565 ซึ่งลดลง 0.5% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. โดยระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มเผชิญปัญหา Stagflation หรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงและเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ สงครามยูเครน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเอเชียเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมีนัยสำคัญ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 65)
Tags: ตลาดหุ้นเอเชีย