สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 72.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 4.2 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่แล้ว และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณในการประชุมวานนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่ได้ส่งสัญญาณในเดือนมี.ค.ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567
ทั้งนี้ ในรายงาน dot-plot ระบุว่า กรรมการเฟด 13 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ขณะที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว และมีเพียง 5 รายคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยตลอดปี 2566 ขณะที่ 7 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 64)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน