นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กทม. ปี 65 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาตามความเข้มข้นของค่าฝุ่น PM 2.5 และมาตรการเชิงรุกเพื่อควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด โดยเฉพาะรถยนต์ควันดำอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกรมควบคุมมลพิษ ในการกวดขัน ตรวจจับ และบังคับใช้กฎหมายกับรถทุกประเภทที่ปล่อยควันดำในพื้นที่กทม. อย่างเข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากยานพาหนะ
ด้านสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักเทศกิจ ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการตั้งจุดตรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุก และรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ผู้ขับขี่ในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ และปรับพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มจุดตรวจวัดควันดำบริเวณขาเข้า-ขาออก ตามถนนสายหลักต่างๆ เพิ่มความเข้มข้นการตรวจสอบ และระงับการใช้รถที่มีควันดำ จนกว่าจะนำรถไปปรับปรุงแก้ไข รวมถึงรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ดำเนินการตรวจวัดค่าไอเสียต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานใหม่ ก่อนนำออกมาวิ่งให้บริการประชาชน ปรับปรุงเครื่องยนต์ของรถให้มีประสิทธิภาพ มีค่าไอเสียที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ กรณีการตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกิน 30% จากเดิม 45% และหากตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกิน 40% จากเดิม 50%
ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทราบเกณฑ์มาตรฐานควันดำใหม่ที่บังคับใช้ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนดูแลบำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รวมทั้งได้มีการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์/เครื่องยนต์ ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานกำหนด เพื่อลดการเกิดฝุ่น PM 2.5
ในส่วนของรถยนต์ที่ใช้ในราชการ ได้เน้นย้ำความร่วมมือทุกหน่วยงานในสังกัดกทม. ให้ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่ใช้ในราชการไม่ให้เกิดควันดำ รวมถึงการตรวจสอบค่ามลพิษจากปลายท่อไอเสียรถทุกคันอย่างเข้มข้น ให้มีค่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ตลอดจนได้ส่งเสริมแนวทางลดการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลของหน่วยงานในสังกัดกทม. โดยเลือกใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในระยะยาว
ด้านกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานในสังกัด กทม. เข้มงวดตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่ใช้ในราชการ เพื่อให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและตรวจวัดไม่ให้เกิดควันดำ รวมถึงการตรวจสอบอัตราค่าไอเสียไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด และได้จัดหน่วยบริการตรวจสภาพรถยนต์เคลื่อนที่เพื่อลดมลพิษ PM 2.5 โดยใช้เกณฑ์ไม่เกิน 30% ตามที่กำหนด หากพบรถยนต์ที่เกินค่ามาตรฐานก็จะดำเนินการแก้ไขในระหว่างตรวจวัด หากไม่สามารถแก้ไขได้จะส่งเข้ากองโรงงานช่างกลเพื่อตรวจซ่อมต่อไป
นอกจากนี้ แต่ละหน่วยงานยังได้ประชุมพนักงานขับรถและบุคลากรในสังกัด เพื่อเน้นย้ำให้ใส่ใจ ดูแล รักษาสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อมลพิษ และนำรถเข้าตรวจสภาพเครื่องยนต์ ตามวงรอบที่กำหนดเป็นประจำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 เม.ย. 65)
Tags: ขจิต ชัชวานิชย์, ฝุ่น PM 2.5, ฝุ่นละออง