ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐลงนามบังคับใช้กฎหมายเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) เพื่อยุติความสัมพันธ์ทางการค้าที่ปกติกับรัสเซีย ขณะที่รัสเซียยังคงทำการโจมตียูเครน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะปูทางให้สหรัฐปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสหรัฐ, ญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกอื่น ๆ ของกลุ่ม G7 ได้ตกลงกันเมื่อเดือนที่แล้วที่จะดำเนินมาตรการยกเลิกสถานะชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง (most-favored nation – MFN) ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากภาษีนำเข้าที่ระดับต่ำ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ในฐานะสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐ, สหภาพยุโรป และพันธมิตรอื่น ๆ ของสหรัฐ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพื่อกดดันให้หยุดรุกรานทางทหารในยูเครนซึ่งดำเนินมากว่า 1 เดือนแล้ว
การเพิกถอนสถานะ MFN ทำให้รัสเซียอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเกาหลีเหนือและคิวบาในแง่ของความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐ โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สหรัฐอาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของรัสเซียจาก 3% เป็น 30%
เบลารุสซึ่งสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน จะสูญเสียสถานะ MFN ด้วยภายใต้กฎหมายใหม่ที่สหรัฐบังคับใช้
สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า รัสเซียเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดอันดับที่ 26 ของสหรัฐ โดยมีมูลค่าการค้า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2562
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้ลงนามในกฎหมายเมื่อวันศุกร์ เพื่อห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานจากรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ เขาได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารเพื่อห้ามการนำเข้าน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติเหลว, ถ่านหิน และผลิตภัณฑ์พลังงานอื่น ๆ ของรัสเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 65)
Tags: คว่ำบาตรรัสเซีย, ภาษีนำเข้า, รัสเซีย, สหรัฐ, โจ ไบเดน