SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,702.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 65,889.88 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ แต่ยังยืนบวกได้ แม้วอลลุ่มไม่มาก โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นที่ได้อานิสงส์การเปิดประเทศ โดยเฉพาะ AOT ที่มีแรงซื้อเข้ามาหนุน และหุ้นขนาดเล็กในกลุ่ม sSET ที่ช่วยหนุนดัชนีได้บ้าง ส่วนตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ปรับตัวขึ้น แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่ายังแกว่งไซด์เวย์ และตลาดอาจจะซึมลงบ้าง ก่อนที่จะหยุดทำการในวันที่ 6 เม.ย.นี้ โดยยังมองภาพตลาดยังมีแรงกดดันอัพไซด์จาก Inverted yield curve ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจชะลอ และสงครามรัสเซียและยุเครนยังยืดเยื้อ โดยให้แนวต้าน 1,710 จุด แนวรับ 1,690 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,702.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 65,889.88 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,706.77 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,699.82 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 629 หลักทรัพย์ ลดลง 1,106 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 572 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้น ไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ เป็นบวกได้เล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อขายในวันนี้ถือว่าค่อนข้างเบาบาง โดยที่หุ้นในกลุ่มที่ เข้ามาช่วยหนุนดัชนีให้ยังเป็นบวกได้มาจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะ AOT ที่มีแรงซื้อเข้ามา มาก รวมถึงหุ้นขนาดเล็กในกลุ่ม sSET ที่เข้ามาช่วยหนุนดัชนีได้บ้าง ทำให้ดัชนีบวกได้เล็กน้อย และตลาดหุ้นเอเชียใน วันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนก็ตาม
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ หรืออาจจะซึมลงบ้าง ก่อนที่ตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการใน วันพุธที่ 6 เม.ย. 65 รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าการซื้อขายอาจจะไม่คึกคักมาก และยัง มีความกังวลเกี่ยวกับ Inverted yield curve ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัว และทำให้อัพไซด์การปรับตัวขึ้นของ ตลาดหุ้นมีค่อนข้างจำกัด อีกทั้งยังต้องติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์เริ่มยืดเยื้อ มามาก และอาจเป็นประเด็นเข้ามากดดันตลาดหุ้นได้อีก โดยให้แนวต้าน 1,710 จุด แนวรับ 1,690 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,813.05 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,797.88 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,403.88 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
SVOA มูลค่าการซื้อขาย 2,294.85 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,441.07 ล้านบาท ปิดที่ 4.00 บาท ลดลง 0.08 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 65)
Tags: ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย