นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ปรับระบบการคัดแยกผู้ป่วยโควิด-19 เน้นการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่ม 608 รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสูงคงตัว และคาดการณ์ว่าช่วงหลังสงกรานต์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและจัดระบบดูแล
ในส่วนของ สปสช.นั้น ได้จัดเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้เช่นกัน โดยได้เปิดสายด่วน 1330 กด 18 เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาโดยเฉพาะ ทั้งกลุ่ม 608, เด็ก 0-5 ปี, คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง สปสช.จะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ให้ก่อน พร้อมประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงนั้น ให้โทรเข้าที่สายด่วน 1330 กด 14 ทางเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการรักษาตามอาการ กรณีเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือเจอ แจก จบ หรือจะเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ก็ได้ ซึ่ง สปสช.จะลงทะเบียนให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มนี้ และจับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป กรณี โทร.สายด่วนไม่ติดเนื่องจากอาจมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ให้ลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือทางไลน์ สปสช. @nhso ได้เช่นกัน
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มสีเหลือง-แดงนั้น ท่านเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือโทร. 1669 โดยจะมีการประเมินอาการก่อนว่าเข้าเกณฑ์ผู้ป่วยโควิด-19 สีเหลือง-แดง หรือไม่
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ปัจจุบันสายด่วน 1330 ได้เพิ่มคู่สายเป็น 3,000 คู่สายแล้ว โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของ สปสช. และอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์ ซึ่งจำนวนสถิติที่ โทร.เข้ามาที่สายด่วน 1330 ในขณะนี้เฉลี่ยวันละประมาณ 30,000 สาย ถือว่าเป็นปริมาณที่มาก แต่ระบบยังสามารถรับได้ จำนวนสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้หรือ abandon เป็น 0% นอกจากนี้ สปสช.ยังมีในส่วนของช่องทาง Non Voice เพื่อให้บริการผู้ป่วยผ่านระบบแชททางไลน์ สปสช. @nhso และเฟสบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีประชาชนติดต่อเข้ามาวันละ 10,000-20,000 รายเช่นกัน
ทั้งนี้ นอกจากสายด่วน สปสช. 1330 แล้ว สามารถติดต่อสายด่วนของแต่ละจังหวัดที่ท่านพักอาศัยอยู่ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาตามแนวทางที่กำหนดได้เช่นกัน โดยเข้าไปดูได้ที่เฟสบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีรายละเอียด ขั้นตอน และเบอร์โทรศัพท์ในการประสานงานระบุไว้ ในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร (https://main.bangkok.go.th/) และเฟสบุ๊กกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ (https://www.facebook.com/prbangkok) รวมถึงเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT หรือคลิก https://bit.ly/3Iuw7Si ได้เช่นกัน
นอกจากนั้น ยังมีระบบของกรมการแพทย์และภาคีเครือข่าย สำหรับลงทะเบียนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย สามารถลงทะเบียนได้เวลาทำการ 08.30-16.30 น. https://onestopcovid.dms.go.th/oss/index.jsp ด้วยเช่นกัน รวมถึงแอดไลน์ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในสถานการณ์โควิด สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อขอคำแนะนำการดูแลเด็กที่ติดเชื้อโควิดได้ แอดไลน์ที่ https://lin.ee/Dw9Nx3d สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 เม.ย. 65)
Tags: COVID-19, lifestyle, สปสช., สายด่วนโควิด, โควิด-19