ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (4-8 เม.ย.) ไว้ที่ 33.00-33.80 บาท/ดอลลาร์ ต้นสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ ก่อนฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรกตามสกุลเงินเอเชีย นำโดยเงินเยน (ที่ร่วงลงหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณสกัดการพุ่งขึ้นของบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่น) และเงินหยวน (ที่อ่อนค่าลงจากความกังวลต่อโควิดในจีน) เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้ในระหว่างสัปดาห์รับความหวังต่อการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ย่อตัวลงก็ช่วยหนุนสกุลเงินเอเชียด้วยเช่นกัน เงินบาทอ่อนค่ากลับมาอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์เพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ประกอบกับนักลงทุนรอจับตาการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด
โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของไทย รายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 มี.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ภาคบริการเดือนมี.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ข้อมูลสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. ของจีน ยุโรป และอังกฤษ
เมื่อวันศุกร์ (1 เม.ย.) เงินบาทปิดตลาดที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.57 บาท/ดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 มี.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-1 เม.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยรวม 12,438 ล้านบาท และมีสถานะเป็น NET INFLOW ในตลาดพันธบัตร 5,660 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 9,921 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 4,261 ล้านบาท)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 65)
Tags: KBANK, ค่าเงินบาท, ธนาคารกสิกรไทย, เงินบาท