พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ปัญหาของประเทศ ทั้งในเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน และสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยยืนยันว่าจะร่วมมือกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาความยากจน ที่มุ่งบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวงเพื่อแก้ปัญหาความยากจน โดยใช้ TPMAP ลงสู่การทำงานในระดับพื้นที่ เพื่อให้สามารถวางนโยบายการแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตรงกับความต้องการและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยจะเร่งให้เกิดความชัดเจนภายในเดือนเมษายนนี้
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ฝากให้ ครม.ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ส่วนงานที่เป็นของกระทรวงต่างๆ จะมีการลงไปสำรวจปัญหาของประชาชนว่าความยากจนนั้นจะต้องทำอย่างไร และอะไรที่จะทำให้หลุดพ้นจากความลำบากได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้จัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย (พัฒนาเมนูแก้จน) เพื่อเสริมศักยภาพให้กลุ่มเปราะบางตรงนี้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งเป้า 5 มิติ คือ สุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ และการเข้าถึงบริการของภาครัฐ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกประเด็นข้อห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้ และจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น รัฐบาลจะเร่งเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และติดตามความพร้อมในเรื่องการดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งยึดมั่นในการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดเข็ม 3 และเข็ม 4
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้ตอกย้ำถึงความสำเร็จที่ไทยและประเทศซาอุดิอาระเบียได้ฟื้นความสัมพันธ์ในรอบ 30 กว่าปี ซึ่งวันนี้ผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าผลงานนำไปสู่ความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกแรงงาน และการส่งออกสินค้าเกษตร จากนี้ไปกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งเดินหน้าส่งออกสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นที่ต้องการของประเทศซาอุฯ และประเทศในตะวันออกกลางเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งจะเร่งเดินสายสร้างความเข้าใจถึงความโดดเด่นของสินค้าไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 65)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, รัชดา ธนาดิเรก, แรงงาน, โควิด-19