สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในวันจันทร์ (7 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.72 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 119.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 123.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2555
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “State of the Union” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นในวันอาทิตย์ (6 มี.ค.) ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้รัสเซียกรณีใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนพร้อมที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้จะไม่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในยุโรป
คาร์สเตน ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชกล่าวว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงหลังมีรายงานว่าชาติตะวันตกกำลังพิจารณาการแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยรัสเซียถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งหากนานาประเทศตัดสินใจแบนน้ำมันจากรัสเซีย ก็จะส่งผลกระทบต่อภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกและทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 65)
Tags: lifestyle, WTI, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน